ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อใกล้ค่ำวานนี้ 20 พ.ย.2565 ที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ธนกร รอดเรือง ผู้กำกับถานีตำรวจสังขละบุรี  ได้รับแจ้งจาก นายขจรศักดิ์ สรหงส์  เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลตำบลวังกะ ว่ามีคนกำลังจะกระโดดสะพานอุตตมานุสรณ์ (สะพานไม้) เหตุเกิดในพื้นที่บ้านวังกะ ม 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ และสายตรวจวัดวังก์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์(จุดรับแจ้งเหตุสังขละบุรี) เดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่บนสะพานฝั่งบ้านวังกะ พบชาวบ้านและนักท่องเที่ยวรวม 6-7 คนกำลังช่วยกันพูดคุยกับเด็กหญิงไม่ทราบชื่อ อายุ 17 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ โดยมีผู้หญิงที่เป็นนักท่องเที่ยวกอดเด็กผู้หญิงไว้พร้อมทั้งพูดให้กำลังใจ พร้อมพยายามสอบถามข้อมูล และสาเหตุที่ต้องการกระโดดสะพานในครั้งนี้

เบื้องต้นเด็กหญิงคนดังกล่าวไม่ให้ข้อมูลใดๆ มีอาการตกใจ ตัวสั่นและร้องให้ตลอดเวลา สลับกับระบายความรู้สึกว่าไม่มีใครรัก อยู่คนเดียวโดยที่พ่อแม่ไม่สนใจ ไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพราะโดนทำร้าย ทุกคนจึงพยายามให้น้องสงบสติอารมณ์ และขอไม่ให้คิดสั้นแบบนี้อีก

จากการเปิดเผยของนายขจรศักดิ์ สรหงษ เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลตำบลวังกะ ซึ่งเป็นคนที่เข้ามาช่วยชีวิตน้องไว้ก่อนจะกระโดดสะพานว่า ขณะเกิดเหตุตนเองปฎิบัติหน้าที่อยู่บริเวณสะพานอุตตมานุสรณ์(สะพานไม้)ฝั่งชุมชนบ้านวังกะ เมื่อได้ยินคนตะโกนว่ามีคนจะกระโดดสะพาน ตนจึงได้รีบวิ่งมายังจุดที่ได้รับแจ้ง เมื่อมาถึงพบว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวข้ามราวสะพานไปยืนอยู่บริเวณจุดที่ยื่นออกจากตัวสะพาน(เมื่อก่อนสร้างไว้สำหรับเป็นที่นั่งบนสะพาน) ตนจึงพยายามพูดเกลี่ยกล่อม ก่อนจะเข้าไปคว้าเสื้อน้องต่อมามีนักท่องเที่ยวที่มามุงดูเข้ามาช่วยกันอุ้มน้องข้ามกลับมาบนสะพาน...เสียง..

ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันนำตัวเด็กหญิงคนดังกล่าว นำส่งโรงพยาบาลสังขละบุรี เพื่อให้ทีมแพทย์-พยาบาลได้พูดคุยและสอบถามถึงมูลเหตุจูงใจในการตัดสินใจจะกระโดดสะพานในครั้งนี้ และติดต่อผู้ปกครองมารับตัวเด็กกลับไป

ทั้งนี้ สะพานอุตตมานุสรณ์เป็นสะพานที่สร้างข้ามลำน้ำซองกาเลีย เพื่อเชื่อมการเดินทางระหว่างชุมชนมอญบ้านวังกะ กับฝั่งเทศบาลตำบลวังกะ มีความยาว 480 เมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอสังขละบุรี ที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์หญิงสติไม่ดีพยายามจะมากระโดดสะพานฯ แต่โชคดีชาวบ้านและผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว เห็นแล้วเข้าช่วยเหลือไว้ได้ทัน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน