เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



คกก.โรคติดต่อฯ เร่งฉีดวัคซีนโควิดกลุ่ม 608 หลังแนวโน้มติดเชื้อเพิ่ม


21 พ.ย. 2565, 18:37



คกก.โรคติดต่อฯ เร่งฉีดวัคซีนโควิดกลุ่ม 608 หลังแนวโน้มติดเชื้อเพิ่ม




วันนี้ ( 21 พ.ย.65 ) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติครั้งที่9/2565 ว่า ที่ประชุมได้รับทราบเรื่องผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกส่งหนังสือแสดงความชื่นชมประเทศไทยเรื่องความสำเร็จในการจัดการวัคซีนโควิด 19 การเตรียมความพร้อมสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้าที่ไทยมีผลการดำเนินการที่ดีเป็นตัวอย่างให้ประเทศต่างๆ รวมถึงรับสถานการณ์โรคโควิด 19 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเอเชีย ดังนั้นที่ประชุมจึงเร่งการฉีดวัควีนโควิดเข็มกระตุ้นให้มากขึ้น เนื่องจากข้อมูลผู้เสียชีวิตในไทย 100% เป็นกลุ่ม 608 ปัจจัยสำคัญ คือ การไม่รับวัคซีน หรือ รับวัคซีนเพียง 2 เข็มก็หยุดไม่รับเข็มกระตุ้นเพิ่ม

ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบแผนบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 สำหรับปี 2566 ตามที่อนุกรรมการต่างๆ เสนอมา จึงมีการตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการวัคซีนโควิด19 ภายหลังประกาศเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง เพื่อดูแลหลักวิชาการและการฉีดในระยะต่อไป ตั้งคณะกรรมการด้านวิชาการเป็นไปตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 โดยเป็นชุดเดิมที่ทำหน้าที่ในการรับมือโควิดช่วงวิกฤติ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเสนอตั้งคณะอนุกรรมการดูเรื่องกำจัดโรคไข้มาลาเรียให้หมดไปจากประเทศไทยโดยเฉพาะด้วย

ด้านนพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงแผนบริหารจัดการวัคซีนโควิด ปี 2566 ว่า สรุปจะฉีดให้กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่ม 608 รวมถึงบุคคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่เกี่ยวข้อง จำนวน 18 ล้านคน โดยฉีดกระตุ้นคนละ 2 เข็ม จึงต้องเตรียมวัคซีนให้กลุ่มนี้ทั้งสิ้น 36 ล้านโดส ซึ่งจากวัคซีนที่มีรวมถึงวัคซีนที่ได้รับบริจาคทำให้ไม่ต้องเพิ่มงบสามารถใช้การบริหารวัคซีนที่มีได้ทันที ไม่ต้องรอวัคซีนรุ่นใหม่เพราะข้อมูลวิชาการเท่าที่มียังไม่ชี้ชัดว่าวัคซีนรุ่นใหม่จะสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันเชื้อได้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ยังติดตามข้อมูลวิชาการต่อเนื่องเป็นหลักการบริหารจัดการ หากพบมีวัคซีนใหม่ที่ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลดีกว่า จะหาเพิ่มเติมนำเข้ามา









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.