วันนี้ ( 23 พ.ย.65 ) พลโท ศานติ สกุลตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วยพลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองผู้อำนวยการรักษาควมมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และผู้เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ อำเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งมีนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พลตำรวจตรี ปราบพาล มีมงคล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส นาวาเอก พงษ์ศักดิ์ ทองไสย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ ให้การต้อนรับพร้อมรายงานความคืบหน้าและการให้การช่วยเหลือเยียวยา

พลโท ศานติ กล่าวว่า การก่อเหตุเมื่อวานนี้ (22 พ.ย.65) รถยนต์เป็นรถที่ซื้อต่อๆ กันมา กำลังให้ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสตรวจสอบตวันผู้ซื้อคนสุดท้าย และนำเข้าสู่กระบวนการสอบสวนต่อไป ยอมรับว่ารถลักษณะนี้ยากต่อการป้องกันอยู่บ้างแต่จะพยายามอย่างเต็มที่ป้องกันการก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆ การตรวจสอบอาจจะยากแต่ไม่เกินความสามารถของเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะที่คนรับตำแหน่งได้เน้นย้ำในเรื่องของรถยนต์ รภจักรยานยนต์ที่สูญหายไป ตั้งแต่ปี2560 เป็นต้นมา สั่งให้ทุกส่วนนำข้อมูลแจกจ่ายให้กับทุกด่าน ทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันสกัดกั้นที่จะนำรถมาประกอบระเบิด พร้อมย้ำว่าด่านทุกด่านในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสมีการซักซ้อมกันอย่างเต็มที่ การเตรียมความพร้อมต่าง ๆ ของหน่วยทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองสามารถดูแลพื้นที่ได้อยู่

“…อยากจะประนามผู้ก่อเหตุ การที่มาก่อเหตุระเบิดในพื้นที่ชุมชน ใกล้กับสถานศึกษา เด็ก ๆ กำลังเรียนหนังสือทำให้เด็ก ๆ เกิดความตื่นตระหนกตกใจ อาจทำให้เกิดผลเสียต่อเด็ก ๆ ได้ ไม่สมควรที่จะก่อเหตุแบบนี้ ในฐานะแม่ทัพภาคที่ 4 จะพยายามป้องกันและดูแลเยียวยาสภาพจิตใตของทุก ๆ คน ภาพรวมทั้งหมด…”

พลโท ศานติ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในพื้นที่เมือง ซึ่งตั้งแต่ก่อนการประชุมเอเปกมีการเตรียมการป้องกันกันอยู่ตลอดเวลา พร้อมฝากถึงประชาชนที่เห็นเหตุการณ์หรือจุดไหนที่เป็นข้อผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร่งด่วนทันที