ชาวนาเดือดร้อนหนัก ! ฝนตกใส่ข้าวเปลือกที่ตากแดดไว้ ก่อนนำไปขายถูกกดราคา
24 พ.ย. 2565, 18:40
วันนี้ (24 พ.ย.65) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้ออกสำรวจพื้นที่ทำนา ในเขตอำเภอสำโรงทาบ อำเภอศีขรภูมิ และ อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ ได้พบชาวนาที่กำลังพากันนำข้าวเปลือกนำมาตากแดด ในบริเวณถนนหน้าบ้านและตามท้องถนนซึ่งส่วนใหญ่เมื่อนำข้าวเปลือก มาตากแล้วในช่วงวันนี้ ก็มีอุปสรรค์คือมีฝนตกลงมา และเมื่อนำไปขายแล้วจะถูกพ่อค้าคนกลางกดราคาต่ำ โดยอ้างว่ามีความชื้นมากจากราคาที่ประกาศเอาไว้ 12 บาท พอนำไปขายจริงได้เพียง 8.50 ตังค์เท่านั้น
นายบุญเยี่ยม สืบสาย อายุ 54 ปี บ้านหนองผักบุ้งตำบลแตล อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เผยว่าตนเองทำนาจำนวน10ไร่ให้รถเกี่ยวมาเกี่ยวข้าวให้ไร่ละ600บาทไหนค่าปุ๋ยอีกกระสอบละ1,400 บาท และค่าแรงค่าจิปาถะรวมแล้วถ้าหากนำไปขายถ้า ได้ราคาอยู่ที่ 15บาทคงจะคุ้ม แต่พอนำมาขายได้ราคาที่ถูกกดต่ำสุดคือกิโลละ8บาท 50สตังค์ ทำให้ตนเองเสียความรู้สึกกับราคาข้าวที่นำไปขาย
นายบุญเยี่ยมยังบอกอีกว่าถือว่ายังโชคดีที่ทางรัฐบาลที่มีความห่วงใยชาวนาทั่วประเทศและมอบนโยบายให้ธ.ก.ส.เร่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรตามมติคณะรับมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่15พฤศจิกายน2565 ต่อมาคณะกรรมการธ.ก.ส.มีมติเมื่อวันที่21พฤศจิกายน2565เห็นชอบให้ธ.ก.ส.ดำเนินมาตรการช่วยเหลือและยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายได้นำเงินในการประกันราคาข้าวไร่ละ1,000บาทและได้เงินจำนวนนี้ได้ไปจ่ายค่าเก็บเกี่ยวและได้ลดราคาค่าปุ๋ยลงได้พอบรรเทาความลำบาก และอยากให้ทางรัฐบาลช่วยผลักดันราคาข้าวเปลือกนาปี ให้อยู่อย่างต่ำกิโลกรัมละ 15บาท ชาวนาพออยู่ได้
ถึงอย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจตามพื้นที่ต่างๆของพี่น้องเกษตรกรที่พากันนำข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้วนำมาตากอยู่บนท้องถนนต่างก็บ่นท้อแท้กับสภาวะฝนที่ตกมานอกฤดูกลาลทำให้ขนเข้าขนออกมาทุกเช้าเย็นและบางรายถึงกับบ่นและท้อแท้ว่าข้าวที่ตนเองที่เก็บเกี่ยวมาเมล็ดข้าวจะสวยมากตากแดดเสร็จแล้วนำไปขายก็ถูกกดราคาให้ราคาที่ต่ำมากอ้างว่าเมล็ดข้าวดำบ้างแดงปะปนมาบ้างและความชื้นบ้าง เกิดเป็นชาวนาหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินกว่าจะได้เมล็ดข้าวที่นำมาตากแดดก็ไม่ใช่เรื่องง่ายจึงวอนไปถึงทางรัฐบาลให้ออกมาราคาประกันราคาข้าวให้ ชาวนาจะลืมตาอ้าปากได้และฝากถึงนายทุนอย่ากดราคาชาวบ้านจนเกินไปอย่างน้อยก็ขอให้ชาวนาได้รับความยุติธรรมบ้าง
ขณะที่นางจำปี ก้านอินทร์ อายุ 79 ปี ชาวบ้านกระโพ ม.1 ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งทำนาอยู่ 34 ไร่ ก็นำข้าวมาตากไว้บนลานซีเมนต์
ด้านนางปนัดดา ก้านอินทร์ อายุ 48 ปี ลูกสาวนางจำปี บอกว่า ตนตากข้าวมาได้ 2 วันแล้ว กำลังจะแห้งเตรียมเก็บขึ้นยุ้ง ก็โดนฝนตกลงมาอย่างหนักตอนเที่