นายกฯ ชื่นชมความสำเร็จทีมวิจัย มทร.อีสาน ขอนแก่น สร้าง "รถบัสไฟฟ้า"ใช้พลังงานไฟฟ้า 100%
27 พ.ย. 2565, 15:07
วันนี้ ( 27 พ.ย.65 ) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมความสำเร็จของนักวิจัยไทย ผลิตรถบัสไฟฟ้า Electric Bus ใช้พลังงานไฟฟ้า 100%
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า รถบัสไฟฟ้า ถือเป็นผลงานความสำเร็จของคนไทย จากทีมวิจัยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ร่วมกับ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นงานวิจัยที่ได้รับงบประมาณและการสนับสนุนจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
“รัฐบาลเชื่อมั่นในศักยภาพและชื่นชมในความสามารถของคนไทย เมื่อคนไทยมีโอกาสและได้รับการสนับสนุนแล้ว ย่อมมีความสามารถไม่แพ้ใคร รวมทั้ง เชื่อว่าความสำเร็จจากรถบัสไฟฟ้าต้นแบบนี้จะต่อยอดไปยังความสำเร็จด้านนวัตกรรมอื่นๆ ตามมา”
โดยในการวิจัยและพัฒนารถบัสพลังงานไฟฟ้า 100% นี้ เมื่อชาร์จ 1 ครั้งสามารถวิ่งได้ไกลถึง 250 กิโลเมตร สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยการชาร์จไฟใช้เวลาประมาณ 2 ชม. และเป็นการออกแบบที่อำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร เพราเป็นรถชานต่ำ ผู้โดยสารก้าวขึ้น-ลงได้ง่าย รวมทั้ง ใช้ระบบกักเก็บพลังงานแบบผสมระหว่างแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออน และอัลตร้าคาปาซิเตอร์ (Ultracapacitors) สำหรับระบบขนส่งสาธารณะในเมือง
“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาทุนมนุษย์ของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของคนไทยเพื่อพัฒนานวัตกรรม วช. ต้องการสนับสนุนให้นักวิจัยได้สร้างผลงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย คือ ต่อยอด 5 อุตสาหกรรมเดิม 1. อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Next-Generation Automotive) 2. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (Smart Electronics) 3. อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Affluent, Medical and Wellness Tourism) 4. อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ (Agriculture and Biotechnology) และ 5.อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร (Food for the Future) เพิ่มเติมด้วยอีก 5 อุตสาหกรรมใหม่ ที่รัฐบาลต้องการเพิ่มศักยภาพ 1. หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม (Robotics) 2. อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ (Aviation and Logistics) 3. อุตสาหกรรมดิจิทัล (Digital) 4. อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ (Biofuels and Biochemical) 5. อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub) ทั้งนี้ เพื่อการพัฒนาศักยภาพด้านการแข่งขันของประเทศ และเพื่อให้เท่าทันการพัฒนาด้านนวัตกรรมของโลกในอนาคต” นายอนุชาฯ กล่าว