ก.พาณิชย์ จับมือภาคเอกชน เดินหน้าฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก ขับเคลื่อนการส่งออกให้เติบโต
27 พ.ย. 2565, 15:48
วันนี้ ( 27 พ.ย.65 ) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง เปิดการค้าไทย มิติใหม่สู่สากล ในงานสัมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 40 ที่จังหวัดอุบลราชธานี ใจความว่า ประเทศไทยและทั่วโลกยังเผชิญปัญหาและสิ่งท้าทายในหลายด้าน ทั้งโควิด-19 ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การกีดกันทางการค้าและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่เชื่อว่าจะร้อนแรงขึ้น ซึ่งมีการนำเมืองกับเศรษฐกิจมารวมกัน ทำให้หลายประเทศต้องเลือกข้าง โดยประเทศไทย ต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่าจะใช้ภูมิรัฐศาสตร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางเศรษฐกิจอย่างไรต่อไป
ทั้งนี้ ในการประชุมเอเปค ได้สะท้อนให้เห็นว่าไทยมีพันธมิตรใหม่เพิ่มเติม ที่น่าจะเป็นที่พึ่งได้ในอนาคตคือ ซาอุดีอาระเบีย เป็นตลาดใหญ่ทั้งการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว มั่นใจว่า ซาอุฯ จะเป็นที่พึ่งสำคัญของไทย ขณะเดียวกันไทยก็เป็นที่พึ่งสำคัญของซาอุฯ ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ การกีดกันทางการค้าจะมีรูปแบบใหม่เข้ามามากขึ้น ในรูปแบบที่ไม่ใช่ภาษี ซึ่งทั้งภาครัฐและเอกชนต้องเตรียมรับมือ
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเอเปค มีสัญญาณที่ดีหลายเรื่อง อาทิ เห็นพ้องว่าควรใช้เวทีพหุภาคีเป็นเวทีขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าการลงทุนในกลุ่มเขตเศรษฐกิจเอเปค เพื่อไม่ให้ประเทศเล็กเสียเปรียบประเทศใหญ่ และยอมรับการขับเคลื่อน BCG Model ของไทย รวมทั้งการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้เอสเอ็มอีและไมโครเอสเอ็มอี ตลอดจนให้ความสำคัญกับสตรีและกลุ่มเปราะบางเข้ามามีบทบาททางเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวของกลุ่มสมาชิกเอเปคมากขึ้น
นายจุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่น่าเป็นห่วงคือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อาจกระทบทั้งการลงทุน การค้า การส่งออกและการท่องเที่ยว จึงต้องเร่งจับมือกันระหว่างภาครัฐกับเอกชนแก้ไขปัญหานี้ต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ ได้มีการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานเศรษฐกิจการค้า รวมทั้งภาคเอกชนที่จะช่วยกันหาทางออกท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว เพื่อให้การส่งออกให้เติบโตต่อไปได้