เป็นภาพเวทนาที่สร้างความสะเทือนใจแก่คนทั่วโลก สำหรับ "ทิกกิรี" ช้างเพศเมีย อายุ 70 ปี ที่อยู่ในสภาพผอมแห้งไร้เรี่ยวแรง ไม่ต่างจากซากศพเดินได้ แต่มันยังคงถูกนำมาใช้ร่วมขบวนแห่ ในพิธีแห่พระเขี้ยวแก้ว (Esala Perahera) พิธีกรรมทางศาสนาอันยิ่งใหญ่ในเมืองกัณฏี ประเทศศรีลังกา โดยซ่อนร่างกายอันผ่ายผอมของมันไว้ภายใต้อาภรณ์งดงาม ซึ่งทางนักอนุรักษ์ได้นำเรื่องของช้างรุ่นทวดตัวนี้มานำเสนอไปก่อนหน้านี้นั้น    

 

   อย่างไรก็ตาม ล่าสุด (24 กันยายน 2562) เพจ Rally For Animal Rights & Protection Of Environment ซึ่งเป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์ ก็ได้แจ้งข่าวร้ายเรื่องการจากไปของ ทิกกิรี ช้างแก่คราวทวดซึ่งเป็นหนึ่งในเหยื่อถูกกักขังและใช้งานเยี่ยงทาสมาโดยตลอด

 

            โดยทางเพจระบุว่า ทิกกิรี ต้องเผชิญชะตากรรมชวนสลดมาโดยตลอด มันถูกพรากจากแม่ และถูกทำลายกระทั่งจิตวิญญาณเพื่อให้เชื่อฟังคำสั่งของมนุษย์ มันถูกส่งผ่านมือเจ้าของคนแล้วคนเล่า กระทั่งมาถึงเจ้าของคนปัจจุบัน ที่ไม่เคยให้การดูแลช้างตัวนี้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังจากนำมาร่วมขบวนแห่พระเขี้ยวแก้ว
    ภาพที่ทางเพจเห็น ทิกกิรี เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา พบว่ามันยังคงไม่ได้รับการจัดที่พักพิงอย่างเหมาะสม ยังคงได้รับอาหารเป็นกิ่งไม้และใบไม้เช่นเดิม สิ่งดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าสัตวแพทย์โกหกเรื่องที่อ้างว่าช้างตัวนี้ได้รับการฟื้นฟูร่างกาย และได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าของช้างแล้ว นอกจากนี้การใช้งานอย่างหนักก็ยังมีส่วนทำให้ช้างล้มเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

         

 

   ทั้งนี้ หลังจากที่ภาพของทิกกิรีกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ทางนักอนุรักษ์ก็ยังคงตรววจสอบและติดตามความเป็นอยู่ของช้างตัวนี้อย่างต่อเนื่อง โดยภาพว่าหลังจากที่ช้างล้มลงมาหลายครั้ง และอยู่ในสภาพอ่อนแรงอย่างมาก มันก็ยังคงถูกส่งกลับไปอยู่กับเจ้าของเดิม ที่ยังคงละเลยช้างแก่ที่กำลังป่วยตัวนี้ แถมยังใช้เชือกล่ามขาของมันไว้ด้วยกันอีกต่างหาก

 

             ด้านเว็บไซต์เมโทรก็ได้รับคำยืนยันจากคนดูแลช้าง ว่าช้างทิกกิรีได้ล้มแล้ว เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (24 กันยายน) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งจะมีการส่งสัตวแพทย์จากโรงพยาบาลสัตว์มาทำการตรวจสอบและชันสูตรซากของช้างในวันรุ่งขึ้น