ศรชล.สตูล ช่วยเหลือเรือประมงถูกคลื่นซัดหัวเรือแตก ลูกเรือ 8 คนปลอดภัย
4 ธ.ค. 2565, 10:28
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม รอง ผอ.ศรชล.จว.สต.ฯ ประสานให้ นรภ.ทร.เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งได้ขอรับการสนับสนุนให้เตรียม เรือยางท้องแข็ง (RIB) พร้อมเจ้าหน้าที่และเครื่องสูบน้ำ ไว้แล้ว ออกให้การช่วยเหลือในการกู้เรือประมง ชื่อ พรอลงกต ซึ่งประสบเหตุจมลง บริเวณหน้าเกาะตะรุเตา ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล จว.สตูล ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาประมาณ 15 ไมล์ ในการนี้ นรภ.ทร.เกาะหลีเป๊ะ ได้จัดเรือยางท้องแข็ง (RIB) พร้อมเจ้าหน้าที่ และเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ จำนวน 3 เครื่อง ออกจากท่าเทียบเรือสถานีเรือละงูไปยังบริเวณที่เกิดเหตุเรือจม เพื่อทำการกู้เรือลำดังกล่าวร่วมกับทีมกู้เรือของเครือข่ายประมงในพื้นที่จังหวัดสตูล โดยนำถังเปล่าขนาด 200 ลิตร ผูกใต้ท้องเรือแล้วอัดลมเข้าถังเพื่อยกเรือให้ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ และในเวลา 13.00 น จึงสามารถยกตัวเรือให้ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำได้ และทำการลากเรือกลับชายฝั่งบริเวณปากบารา อ.ละงู จว.สตูล ขณะนี้ได้ลากเรือมาถึงปากบาราและได้ดำเนินการอุดปะรอยแตกรั่วบริเวณหัวเรือ
และทำการลากเรือเข้าเขตน้ำตื้นบริเวณแหลมเตะปัน ปากบารา ต.ปากน้ำ อ.ละงู จว.สตูล ก็จะทำการสูบน้ำออกจากตัวเรือในวันพรุ่งนี้ ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป ว่า น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม รอง ผอ.ศรชล.จว.สต. กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือในเรือประมงที่จ่มลงทะเล สาเหตุเกิดจากคลื่นลมทีแรง และฝนกระหน่ำตกลงมา จนทำให้เรือประมงดังกล่าว หัวเรือแตก ดิ่งจมลงทะเล และมีลูกเรือรวมทั้งไต๋เรือ 8 คน กระโดดเกาะถังน้ำบ้าง ลอยคอกันบ้าง และมีเรือประมงใกล้ๆที่เห็นเหตุการณ์ เข้ามารับช่วยเหลือ ทุกคนปลอดภัย ซึ่งเหตุการณ์เรือจมน้ำเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ และวันนี้ได้ช่วยเหลือจนเสร็จสิ้น ทั้งนี้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล ยังคงออกประกาศเตือน จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน และ ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฉบับที่ 6
ในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค.2565 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะมีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง คาดว่าในช่วงวันที่ 4–5 ธ.ค.2565 จะเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนล่างลงสู่ทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย