รวบตัว ! "2ผู้ต้องหา" บุกยิงถล่มบ้านสมาชิกสภาเทศบาลตำบลเวียง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา
8 ธ.ค. 2565, 10:11
วันที่ 8 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่า ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเชียงคำ อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา รวบตัวผู้ต้องหา 2 ราย หลังเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 บุกยิงถล่มบ้านสมาชิกสภาเทศบาลตำบลเวียง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามสืบสวนสอบสวนต่อเนื่อง ต่อมาผู้เสียหายได้ไปร้องต่อเพจสายไหมต้องรอดเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กล่าวอ้างว่าล้าช้า นั้นล่าสุดทางผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเชียงคำ ได้ออกมาชี้แจงในเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอนและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย อ้างแค้นส่วนตัว
เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเชียงคำ อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ทำการจับหาผู้ต้องหา 2 ราย คือนายวิเชียร ใจดี อายุ 36 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ที่ 1 ตำบลเวียง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา อีกรายคือ น.ส.นิศาพร ชำนาญ อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 269 หมู่ที่ 4 ตำบลทุ่งกล้วย อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เป็นแฟนสาวของมือยิง หลังเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 เวลา 02.00 น.ที่ผ่านมานั้นได้เข้าทำการบุกยิงถล่มบ้านของนายนิคม ทุ่นใจ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลเวียง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ซึ่งหลังจากเกิดเหตุโดยเจ้าหน้าทที่ได้เข้าทำการติดตามสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง ต่อมาทางผู้เสียหาย ได้ไปร้องต่อเพจสายไหมต้องรอด ว่าคดีที่ตนเองถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนเข้าไปในบ้านจำนวน 5 นัดเมื่อวันที่ 6 พ.ย.65 เวลา 02.00 น.ที่ผ่านมานั้นไม่คืบหน้าและต่อมาทางเพจสายไหมต้องรอดได้พาตัวนายนิคมเข้าพบต่อเลขาธิการกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอความช่วยเหลือคุ้มครองพยานนั้น ล่าสุดทางพ.ต.อ.เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผกก.สภ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้ออกมาชี้แจงในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้
พ.ต.อ.เฉลิมชาติ กล่าวต่ออีกว่า ในเวลานี้เจ้าที่ตำรวจยังจะขยายผลสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกทั้งยังใช้ความรอบคอบในการทำคดีเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นคดีที่น่าสนใจของประชาชน ทั้งนี้กระบวนการสอบสวนได้ใช้ทางนิติวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อให้คดีมีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น ในส่วนที่ผู้ต้องหาได้ให้การสารภาพว่าที่ทำไปนั้นเพราะความโกรธแค้นในเรื่องส่วนตัวซึ่งทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อแต่อย่างใด อีกทั้งในการจับกุมครั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 เป็นผู้กระทำผิดจริงโดยตำรวจไม่ได้จับแพะตามที่ประชาชนสงสัยในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ และตนอย่างให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจที่ตรงไปตรงมา หากผู้อยู่เบื้องหลังเป็นคนมีอิทธิพลจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จำทำตามหน้าที่อย่างเคร่งครัดและไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวลไปได้อย่างแน่นอน โดยได้ดำเนินคดีในข้อหา 1.พยามฆ่าและไต่ตรองไว้ก่อน 2. มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครองโดยไม่ด้รับอนุญาต 3. ทำให้เสียทรัพย์ 4. ยิงปืนในหมุ่บ้านโดยไม่มีเหตุอันสมควร