วันที่ 9 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นางพรโพยม(พร-พะ-โยม) นาคน้อย หัวหน้ากลุ่มคุมประพฤติพื้นที่ 1 สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานแทน นางสาวภาวนา ธนคุณารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดประชุมอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศ หรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ.2565 ให้กับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครคุมประพฤติอำเภอเมืองประจวบ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ.2566 ที่จะถึงนี้

โดยเจตนารมณ์ของกฎหมาย เพื่อป้องกันสังคมและผู้เสียหายจากผู้พ้นโทษคดีอุกฉกรรจ์ที่มีความเสี่ยงจะกระทำความผิดซ้ำ พร้อมทั้งส่งเสริมการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดคดีอุกฉกรรณ์ที่ใช้ความรุนแรง บังคับใช้กับผู้กระทำผิดคดีอุกฉกรรณ์ที่ใช้ความรุนแรงใน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.คดีความผิดเกี่ยวกับเพศ เช่น ข่มขืนกระทำชำเราทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อนาจารเด็กไม่เกิน 15 ปีและเด็ก 15-18 ปี อนาจารโดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นที่ไม่ใช่อวัยวะเพศ อนาจารจนได้รับอันตรายสาหัสหรือเสียชีวิต 2.คดีเกี่ยวกับเสรีภาพ เช่น เรียกค่าไถ่ และ 3.คดีเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย เช่น ฆ่าคนตาย ฆ่าบุพการี ฆ่าเจ้าหน้าที่หรือทำร้ายจนอันตรายสาหัส ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ทำร้ายจนได้รับอันตรายสาหัส เป็นต้น

 

 

 

นางพรโพยม นาคน้อย กล่าวว่า ที่ผ่านมานักโทษคดีอุกฉกรรจ์เหล่านี้ เมื่อศาลสั่งพักการลงโทษ หรือพ้นโทษมาแล้ว ไม่ได้มีการไปติดตามควบคุมสอดส่องดูแล และทำให้กลับไปก่อเหตุซ้ำ ทำให้เกิดมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้น หรือไปรบกวนชีวิตความเป็นอยู่ของผู้เสียหายรายเดิมที่เคยถูกก่อเหตุ ดังนั้น พระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ.2565 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ.2566 นี้ ให้อำนาจสำนักงานคุมประพฤติและอาสาสมัครคุมประพฤติ สังกัดกระทรวงยุติธรรม เข้าไปดำเนินการสอดส่องดูแลผู้พ้นโทษหรือพักการลงโทษคดีเหล่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้กลับไปก่อเหตุซ้ำ สร้างความอุ่นใจให้กับผู้เสียหาย หรือสังคม ฉะนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่อาสาสมัครคุมประพฤติ เข้าไปดำเนินการสำรวจสอดส่องดูแลและปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจขอบเขตของกฎหมาย และพบเห็นผู้พักการลงโทษหรือพ้นโทษ ที่มีความเสี่ยงจะก่อเหตุซ้ำสามารถประสานขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือฝ่ายปกครอง เข้าดำเนินการควบคุมตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงอยากขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครคุมประพฤติเมื่อมีการร้องขอขณะเข้าปฏิบัติงานตามพื้นที่ต่างๆ ที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯมอบหมาย/////