สาวใหญ่พบหนุ่มใหญ่ในเฟซบุ๊ก ก่อนถูกเชิดรถกระบะหนีหาย "บอกไปเปลี่ยนล้อแม็ก" สุดท้ายไม่กลับมา
13 ธ.ค. 2565, 13:30
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 ที่จังหวัดนครปฐม ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีผู้ใช้เฟสบุ๊ก รักจริงไม่ทิ้งกัน โด้โพสเฟสบุ๊กระบายความในใจหลังมีชายหนุ่มนำรถยนต์กระบะไปอ้างว่าจะเอาไปเปลี่ยนล้อแม็กแล้วหายไปทั้งรถและคนติดต่อไม่ได้
ขอความเมตตาจากโลก โซเชียลช่วยกรุณาเจอพบเห็นบุคคลคนนี้ช่วยบอกเราทีบุคคลคนนี้เป็นบุคคลที่อันตรายได้มายืมรถทางเราไปตั้งแต่วันที่ 30 เดือน พฤศจิกายนแล้วได้นำรถเราไปขายใครพบเจอช่วยบอกข่าวให้ที่หรือบอกเบาะแสแล้วเราจะมีรางวัลให้ผู้พบเจอคนนี้ชื่อนายวีรยุทธ ปักษี บ้านอยู่รางกระทุ่มตำบลบางภาษีผู้ใดพบเจอหรือให้เบาะแสเรามีรางวัลให้
ขอความช่วยเหลือจากอพื้อนๆทุกคนหน่อยนะคนๆนี้ใด้มายืมรถไปแล้วไม่นำมาคินก้อฝากบอกคนพบเจอด้วยคนฟนี้คือคนอันตลายแต่ถ้าใครจับตัวใด้ดรามีค่าหัวให้หรือส่งข่าวบอกทางเราให้ ทีช่วยๆแชรกันหน่อ
นนะ
หนูขอความเมตตาเพื่อนๆชาวโซเชียล facebook ทั้งหลายให้เจอบุคคลคนนี้ช่วยบอกเบาะแสให้ทีนะคะเขาได้ไหมยืมรถหนูไปแล้วไม่นำกลับมาคืนถ้าใครเห็นใครพบเจอแล้วให้เบาะแสหนูจะมีรางวัลให้นะคะเขาชื่อนายวีระยุทธ์ปักศรีค่ะลงในกลุ่มเฟสบุ๊กตามหาตัวบุคคลและรถกระบะโตโยต้าแค๊ปสีบรอนซ์หมายเลขทะเบียน 2ฒฮ 4227 กทม.ได้หายไปและได้ไปแจ้งความที่สภ.บางเลน
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่และได้พบกับ ผู้เสียหายจากการสอบถามนางสาว ศิวพร ศรีพัดอินทร์ อายุ 46 ปี ที่อยู่ 37/1 ม.4 ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐมเล่าว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย.65 เวลา 15:00 น. นายวีรยุทธ ปักษีอายุ 46 ปี (กุ้ง) ได้โทรมาหาตนบอกว่าจะเอารถไปเปลี่ยนล้อแม็กให้ ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจตนจึงให้เอารถไปจากนั้นนายวีรยุทธได้ถ่ายรูปรถตอนเปลี่ยนล้อแม็กเสร็จแล้วส่งให้ตนดูทางไลน์เพื่อเป็นการยืนยันว่าเปลี่ยนจริง ตนจึงถามกลับไปว่าเปลี่ยนล้อแล้วทำไมยังกลับมาไม่ถึงบ้านสักทีนี่มันก็ดึกดื่นเที่ยงคืนแล้ว นายวีรยุทธก็ตอบกลับมาว่าอีกครึ่งชั่วโมงจะถึงแล้ว ตนก็รอยันเที่ยงคืน นายวีรยุทธก็ยังมาไม่ถึง และตนได้เผลอหลับไปตอนเช้าตื่นมาอีกทีก็ยังไม่เห็นรถมาจอดอยู่ที่บ้าน จึงตัดสินใจตามไปที่บ้านของนายวีรยุทธ เพื่อไปดูว่ารถอยู่ที่บ้านของนายวีรยุทธหรือเปล่า แต่ปรากฏว่าก็ไม่เจอรถแล้วตัวของนายวีรยุทธ จากนั้นตนก็ตัดสินใจโทรไปหานายวีรยุทธอีกครั้งเพื่อถามว่ารถอยู่ที่ไหน นายวีรยุทธก็ตอบกลับมาอีกว่ากำลังเอารถไปทำอยู่ แล้วเมื่อวานก็บอกว่าเอาไปทำเสร็จแล้วไม่ใช่หรอ นายวีรยุทธก็ตอบกลับมาอีกว่าก็อยากให้มันสวยกว่านี้อีก
ตอนนั้นจิตใจตนไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วจึงตัดสินใจไปแจ้งความที่ สภ.บางเลน ไว้เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.65 พอแจ้งความเสร็จตำรวจกลับตอบว่าทำอะไรไม่ได้หาว่าตนเป็นคนสมรู้ร่วมคิด และเป็นคนที่ให้กุญแจกับนายวีรยุทธไปเอง กุญแจกับรถอยู่กับเราถ้าเราไม่ให้กุญแจกับเขาไปแล้วในวีรยุทธจะเอารถไปได้อย่างไร
ทั้งๆที่ตนก็มีหลักฐานข้อมูลที่คุยกันผ่านทางไลน์ และนายวีรยุทธก็บ่ายเบี่ยงในการเอารถมาคืนตลอดบอกว่าจะเอารถมาคืนภายในวันที่ 2 ธ.ค.65 ก็ไม่เอามาคืน คอยแล้วคอยเล่าก็ไม่เอามาตนจึงตัดสินใจไปแจ้งความเป็นครั้งที่ 2 ตำรวจ สภ.บางเลน ก็รับเรื่องเหมือนเดิม และก็บอกว่าเป็นสมรู้ร่วมคิดอีก สุดท้ายจนต้องร้องกับสื่อให้ช่วยอีกแรง
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงถาม นางสาว ศิวพร ศรีพัดอินทร์ อายุ 46 ปี ผู้เสียหาย ว่าไปรู้จักกับนายวีรยุทธได้อย่างไรนางสาวศิวพรเล่าว่าตนได้รู้จักกับนายวีรยุทธท เฟสบุ๊ค นายวีระยุทธได้ขอแอดมาเป็นเพื่อนจากนั้นก็ได้คุยกัน ได้มาแซว แล้วก็มาช่วยขายของที่ร้านจนมาตีสนิท จากความเชื่อใจของตนว่า นายวีรยุทธคงไม่คิดจะทำอะไรยืมรถไปเดี๋ยวก็คงเอามาคืนปกติก็เคยยืมไปแล้วก็เอามาคืน ตนได้รู้จักกับนายวีรยุทธมา 3 เดือน มาช่วยตนขายของอยู่ที่โรงเรียนบางเลนวิทยาตลอดลูกของนายวีรยุทธก็เรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้เช่นกันทั้งครูที่โรงเรียนก็รู้จักกับนายวีรยุทธก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรคิดว่านายวีรยุทธเป็นคนดี นายวีรยุทธเคยได้ยืมรถตนไป 2 ครั้งทุกครั้งก็เอามาคืนตลอด ตนเห็นว่าในวีรยุทธรู้จักคนที่โรงเรียนก็ไม่คิดว่าในวีรยุทธจะเป็นคนแบบนี้ไปได้ ตนจึงวอนผ่านสื่อฝากไปถึงนายวีรยุทธว่าให้เอารถมาคืนตนตนก็จะถอนแจ้งความให้ เพราะอยากได้รถคืนเพื่อมาทำมาหากิน เพราะรถก็ยังผ่อน อยู่ ผ่อนไปแล้ว 29 งวดงวดละ 8,500 บาท ผ่อนทั้งหมด 7 ปี ตอนนี้ตนลำบากมาก จึงอยากให้เอารถมาคืนเพื่อจะได้มีรถทำมาหากินต่อไป