วันนี้ ( 19 ธ.ค.65 ) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในระหว่างวันที่ 17-20 ธ.ค.65 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ และลมกระโชกแรง ในหลายจังหวัดของพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. (19 ธ.ค.65) ที่ผ่านมา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้รายงานเกิดน้ำท่วม 9 จังหวัด ในพื้นที่ภาคใต้ โดยนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ได้สั่งการให้กองทัพ กระทรวงมหาดไทย ปภ. และหน่วยงานต่าง ๆ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน
 
นายอนุชาฯ กล่าวว่า ปภ. ได้รายงานสถานการณ์อุทกภัย เกิดสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 49 อำเภอ 189 ตำบล 1,028 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 51,543 ครัวเรือน ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมากตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 19 ธ.ค. 65 ถึงเวลา 06.00 น. วันที่ 20 ธ.ค.65 พื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนัก ได้แก่ จังหวัดกระบี่ นครศรีธรรมราช พื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักมาก ได้แก่ จังหวัดตรัง พังงา สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
 
“นายกรัฐมนตรีกำชับให้กองทัพ หน่วยทหาร บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทุกภาคส่วนช่วยเหลือประชาชนให้ปลอดภัย แก้ไขคลี่คลายสถานการณ์ตามแผนการช่วยเหลือ ให้จัดกำลังทหารสนับสนุนส่วนราชการท้องถิ่นดูแลประชาชนที่ศูนย์อพยพชั่วคราว โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีน้ำท่วม ช่วยขนย้ายคนและสิ่งของจำเป็นไปยังพื้นที่ปลอดภัย ช่วยรับส่งประชาชน รวมทั้งร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย ปรุงอาหารแจกจ่ายประชาชน ย้ำให้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ ปภ. โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายหลังจากที่น้ำลดแล้ว เจ้าหน้าที่จะเข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ยืนยันว่ารัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาเพื่อลดความเสียหาย ลดความเดือดร้อนให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเป็นกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกคน” นายอนุชาฯ กล่าว 
 
นายอนุชาฯ กล่าวด้วยว่า ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ ระวังอันตรายจากสัตว์และแมลงมีพิษ อันตรายจากกระแสไฟฟ้าโดยเฉพาะบริเวณน้ำท่วมแนวสายไฟฟ้า เสาไฟฟ้า หรือวัตถุสื่อนำกระแสไฟฟ้า รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังการขับขี่พาหนะบริเวณน้ำไหลผ่านทาง เพื่อความปลอดภัยควรงดการท่องเที่ยวในพื้นที่ถ้ำที่มีน้ำท่วมขัง และน้ำตกที่น้ำไหลเชี่ยว สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”