เช็คที่นี่! มัดรวมมาตรการของขวัญปีใหม่ 2566 จาก 9 กระทรวง หลังครม.เห็นชอบ
20 ธ.ค. 2565, 15:40
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 ธ.ค. 2565 ได้รับทราบการจัดของขวัญปีใหม่เพื่อมอบแก่ประชาชนของหลายหน่วยงาน โดยส่วนของกระทรวงคมนาคมได้เสนอของขวัญปีใหม่ที่จะมอบให้กับประชาชนหลายโครงการด้วยกัน อาทิ เปิดให้วิ่งฟรีทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 สายบางปะอิน - สระบุรี -นครราชสีมา ช่วงอำเภอปากช่อง – อำเภอสีคิ้ว – อำเภอขามทะเลสอ และยกเว้นค่าผ่านทาง มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 และหมายเลข 9 และ ยกเว้นค่าผ่านทาง ทางพิเศษบูรพาวิถีและกาญจนาภิเษก ระหว่างเวลา 0.01 น. ของวันที่ 29 ธันวาคม จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 4 มกราคม 2566
ยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ระหว่างเวลา 12.00 น. ของวันที่ 31 ธ.ค.2565 ถึงเวลา เวลา 12.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค. 2566, เรือไฟฟ้า (EV Boat) จะให้บริการฟรี ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 2565 -1 มกราคม 2566, ลดค่าโดยสาร บขส. 10% ทุกเส้นทาง สำหรับผู้โดยสารที่จองตั๋วรถ บขส. ล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ ตรวจรถฟรี โดยกรมการขนส่งทางบก ตลอดเดือนธ.ค. 2565
ขยายเวลาการเดินรถเมล์ ในเขตกรุงเทพฯ ในเส้นทางที่ผ่านสถานที่จัดงานเคานท์ดาวน์ (Count Down) เช่น สยามพารากอน ไอคอนสยาม และเอเชียทีค ถึงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค. 2566 ขยายเวลาเปิดให้บริการเดินรถของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีม่วง ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 31 ธ.ค. 2565 จนถึงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค. 2566 และขยายเวลาให้บริการของอาคารและลานจอดรถ MRT ทั้ง 2 สาย ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 31 ธ.ค. 2565 จนถึงเวลา 03.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค. 2566 บริการจอดรถฟรี ณ ลานจอดรถระยะยาว โซน C ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ท่าอากาศยานภูเก็ต 29 ธ.ค. 2565 ถึงวันที่ 3 ม.ค. 2566
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กระทรวงพลังงานจะดำเนินมาตรการตรึงราคาน้ำมันทุกชนิดในช่วงวันที่ 24 ธ.ค. 2565- 3 ม.ค. 2566, เตรียมการขอขยายระยะเวลาคงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG โดยกำหนดราคาขายปลีกอยู่ที่ 408 บาท/ถัง 15 กก. ตั้งแต่ 1-31 ม.ค. 2566, ให้ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม (LPG) แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 100 บาท/คน/3เดือน และให้แก่ร้านค้าหาบเร่ จำนวน 100 บาท/คน/เดือน ตั้งแต่ 1 ม.ค.-31 มี.ค. 2566, บริการตรวจสภาพรถโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย, รวมถึงแจกส่วนลดครึ่งราคาที่พักที่เขื่อน กฟผ. จำนวน 30,000 สิทธิ์
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศ จะให้บริการหนังสือเดินทางด่วนภายในวันเดียว(ทำเช้า รับบ่าย) โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมเล่มด่วนตั้งแต่วันที่ 3-13 ม.ค. 2566 (ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ), บริการแปลเอกสารภาษาอังกฤษโดยไม่คิดค่าบริการ (จำกัดคนละ 1 เอกสาร) ตั้งแต่วันที่ 3-31 ม.ค. 2566 ณ กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ และในช่วงเวลาและสถานที่เดียวกันนี้ยังจะมีบริการรถทะเบียนเคลื่อนที่ของ กทม. ณ กรมการกงสุล โดยรถทะเบียนเคลื่อนที่ของ กทม. จะจอดให้บริการที่ลาดจอดรถกรมการกงสุล เพื่อให้บริการทำบัตรประชาชนใหม่ การคัดสำเนาเอกสารทะเบียนราษฎรภาษาไทย-อังกฤษ 3 ประเภท ได้แก่ ทะเบียนบ้าน สูติบัตร และมรณบัตร
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่กระทรวงการต่างประเทศจะให้บริการตลอดปี คือ บริการหนังสือเดินทางวันหยุดสุดสัปดาห์ (เสาร์-อาทิตย์) ณ สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวปทุมวัน(ศูนย์การค้า MBK Center) และบางใหญ่ (ศูนย์การค้า Central Plasa West Gate) ทั้งรูปแบบบูธปกติและเครื่องทำหนังสือเดินทางด้วยตนเอง และ การให้บริการกงสุลสัญจร ของขวัญตลอดปี เพื่อให้บริการหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ เดือนละ 1 ครั้ง รวม 12 ครั้ง เพื่อให้บริการประชาชนในพื้นที่จังหวัดที่ไม่มีสาขาสำนักงานหนังสือเดินทางตั้งอยู่
ขณะที่ครม.มีมติเห็นชอบและรับทราบมาตรการของขวัญปีใหม่ 2566 “ให้ ฟรี ลด แรงงานสุขใจ” ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ จำนวน 6 กิจกรรม
1. ให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ตาม ม.33 ดอกเบี้ยต่ำจำนวน 15,000 ราย ไม่เกินรายละ 2 ล้านบาท ตั้งแต่ ม.ค. 66 เป็นต้นไป
2. ให้เข้าถึงสิทธิการรักษา 5 โรค ตามโรงพยาบาลที่กำหนด 7,500 คน ได้แก่ โรคมะเร็งเต้านม ก้อนเนื้อที่มดลูก โรคนิ่ว โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจและหลอดเลือด ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 30 มิ.ย. 66 เป็นต้นไป
3. ให้งานทำ “ต้องการทำงาน ต้องได้งานทำ” โดยมีตำแหน่งงานว่าง ที่หลากหลายไว้ให้บริการ รวม 613,754 อัตรา แบ่งเป็นต่างประเทศ 50,000 อัตราและในประเทศ 563,784 อัตรา
4. ฟรี ค้นหาความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและโรคหัวใจในสถานประกอบการสำหรับผู้ประกันตน 300,000 คน ใน 7 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ จ. สมุทรปราการ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี ระยอง พระนครศรีอยุธยา และสมุทรสาคร ให้ได้รับการตรวจสุขภาพ โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกันตนต่อหัว เฉลี่ยรายละ 910 บาท (กลุ่มเสี่ยง) และ 340 บาท (กลุ่มไม่เสี่ยง) ตั้งแต่ ม.ค. 66 เป็นต้นไป
5. ฟรี อบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ระดับเทคนิค ระดับเทคนิคขั้นสูง และระดับวิชาชีพ 10,000 คน โดยมีหลักสูตรการอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัย ในการทำงาน เช่น กฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และทักษะการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย ในการทำงาน ตั้งแต่ ม.ค. - มี.ค.66
6. ลดอัตราค่าทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ คงเหลือ 1-3 บาท นาน 3 เดือน มีผู้เข้าร่วมทดสอบ 5,000 คน ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค. 66
ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรม เสนอ จำนวน 24 กิจกรรม อาทิ เช่น
1. บริการสานสุข 10 กิจกรรม เช่น
1.1 ไกล่เกลี่ยทั่วไทยสุขใจปีใหม่ เปิดโอกาสให้เจ้าหนี้ ลูกหนี้ได้เจรจากัน ด้วยความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย ลดปัญหาหนี้สิน ส่งผลให้ลูกหนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
1.2 กิจกรรม “LED-Care” ลงพื้นที่พบปะประชาชน ให้คำปรึกษากฎหมาย ประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ บทบาท ภารกิจ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
1.3 แอปพลิเคชัน “เช็คดิ” DSI ตรวจสอบการหลอกชักชวนลงทุนเฉพาะกิจแชร์ลูกโซ่ โดยสามารถประเมินความเสี่ยงที่บุคคล บริษัท หรือองค์กรที่เข้ามาชักชวน ให้เข้าร่วมลงทุนว่าเข้าข่ายลักษณะแชร์ลูกโซ่หรือไม่ แบบเบ็ดเสร็จในแอปพลิเคชันเดียว
1.4 กิจกรรมการลดราคาผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์และบริการอาหารเครื่องดื่ม โดยให้เรือนจำ/ทัณฑสถาน ดำเนินการลดราคาผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์และบริการอาหารเครื่องดื่มตามความเหมาะสม
2. ปีใหม่...ให้ความรู้คู่ความสุข 7 กิจกรรม เช่น
2.1 ยุติธรรมสร้างสุข ส่งสุขให้กับประชาชน โดยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงช่องทางการขอรับคำปรึกษากฎหมายและการยื่นคำขอรับบริการ เช่น สายด่วน 1111 กด 77 แอปพลิเคชัน Justice care หรือศูนย์ยุติธรรมชุมชน และผ่านช่องทางสื่อสารต่าง ๆ
2.2 สนับสนุนการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน ในเดือน ธ.ค. 65 - ม.ค. 66 และพัฒนาระบบยื่นคำขอ กรณีสนับสนุนโครงการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน
2.3 ส่งความสุข ส่งความรู้กฎหมายกลับบ้าน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 66 โดยการนำสื่อความรู้กฎหมายในรูปแบบสมุดอินโฟกราฟฟิกกฎหมาย ฉบับพกพา และสื่อความรู้กฎหมายอื่น ๆ มอบให้กับประชาชน รวมถึงแนะนำช่องทาง การเข้าถึงความรู้กฎหมาย และการขอรับความช่วยเหลือบริการงานยุติธรรมของ ยธ.
3. ปีใหม่ปลอดภัย 3 กิจกรรม เช่น การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 66 โดยนำผู้ถูกคุมความประพฤติทำงานบริการสังคมปรับภูมิทัศน์ ตัดแต่งต้นไม้ บริเวณทางแยกและจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับ การบังคับใช้กฎหมายและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการขับรถขณะเมาสุรา และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และการสุ่มตรวจปัสสาวะ ในผู้ขับขี่รถโดยสารประจำทาง ภายใต้หัวข้อ “ปีใหม่สุขใจ เดินทางปลอดภัยไร้ยาเสพติด” ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต) จตุจักร
4. กฎหมายดี... รับปีใหม่ 4 กิจกรรม เช่น
4.1 คุมประพฤติห่วงใย สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยเตรียมการรองรับการมีผลบังคับใช้ของพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565 ให้กรมคุมประพฤติเป็นหน่วยงานหลักในการติดตามเฝ้าระวังพฤติกรรมของผู้พ้นโทษในความผิด 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มความผิดเกี่ยวกับเพศ กลุ่มความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย และกลุ่มความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ
4.2 กิจกรรม “เร่งรัดผลักดันการแก้ไขกฎหมายลดค่าธรรมเนียมในชั้นบังคับคดี” โดยดำเนินการผลักดันให้มีการแก้ไขร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉ. .. ) พ.ศ. .... (ในส่วนของการลดค่าธรรมเนียมในชั้นบังคับคดี) ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ลูกหนี้ในการลดภาระทางการเงินของลูกหนี้ ลดความเหลื่อมล้ำ ในสังคม ทำให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้มากขึ้น
ด้าน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ครม. เห็นชอบตามที่เสนอ 24 กิจกรรม อาทิ เช่น
1. แจ้งเตือนภัยจากการหลอกลวงทางออนไลน์และข่าวปลอม ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ตั้งแต่เดือน ม.ค. 66 เป็นต้นไป ให้ประชาชนรู้เท่าทันและสามารถรับมือกับการหลอกลวงรูปแบบใหม่ได้
2. ยกเว้นบริการค่าโทร เช่น บริการ NT Voice ยกเว้นค่าโทรที่โทรไปยังเลขหมายปลายทางที่เป็น Fixed Line/IP Phone ของ NT ทั่วไทย (วันที่ 30 ธ.ค. 65 - 2 ม.ค. 66) และบริการ my โทรฟรีในเครือข่าย และส่ง SMS ฟรี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง (วันที่ 31 ธ.ค. 65 - 1 ม.ค. 66)
3. ส่วนลดค่าบริการไปรษณีย์ไทยด่วนพิเศษ (EMS) ในประเทศ ร้อยละ 19-48 สำหรับประชาชนที่ใช้บริการแบบ Walk In (วันที่ 26 ธ.ค. 65 - 5 ม.ค. 66)
4. ให้ผู้ประกอบการ SMEs ยื่นขอใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ช่วยลดค่าใช้จ่าย ร้อยละ 250 ในการส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษา/ฝึกอบรม หรือในการจัดฝึกอบรมให้แก่ลูกจ้าง โดยเฉพาะทักษะดิจิทัล
5. จัดให้มีบริการ/นวัตกรรมด้านดิจิทัลภาครัฐสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ เช่น ระบบการหางาน ห้องสมุดออนไลน์ ระบบการเดินทาง และระบบสวัสดิการด้านสุขภาพ
6. เพิ่มจำนวนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันให้สามารถรองรับการใช้งานของคนพิการและคนทุกกลุ่ม
7. ยกเว้นค่าบริการข้อมูลสารสนเทศด้านอุตุนิยมวิทยาและสถิติภูมิอากาศของประเทศ (1-15 ม.ค. 66) ผ่านเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา
8. ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมให้ดาวโหลดสติ๊กเกอร์ “อัศวินต่อต้านข่าวปลอม” ฟรี ผ่าน Line Sticker Shop @antifakenewscenter สามารถใช้งานได้ไม่น้อยกว่า 90 วัน
9. จัดงาน NSO Data Camp งานประชุมเสวนาวิชาการและนิทรรศการการใช้ประโยชน์ข้อมูลสถิติ และกิจกรรมนักสถิติรุ่นเยาว์สัญจร เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากข้อมูลสถิติ (เดือน ม.ค. - ก.พ. 66)
10. สร้างความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้กับประชาชน ผ่านสื่อวีดิทัศน์ และอินโฟกราฟิก ผ่านสื่อส่วนกลางของ สนง. คกก. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (วันที่ 28 ธ.ค. 65 – 3 ม.ค. 66)
11. ส่งเสริมการมี Digital ID เพื่อให้ประชาชนประหยัดเวลา/ค่าใช้จ่าย และปลอดภัยในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนสามารถยืนยันตัวตนได้สะดวก ลดความเสี่ยงการถูกปลอมแปลงตัวตน (คาดว่าจะประกาศใช้ภายในเดือน ม.ค. 66)
12. นำผลสำรวจความต้องการของประชาชน สำหรับการวางแผนช่วยเหลือประชาชนของหน่วยงานรัฐ ปี 66เสนอ ครม. ต่อไป เช่น เรื่องควบคุมราคาสินค้าอุปโภค - บริโภค ลดค่าไฟฟ้า/ค่าน้ำประปา/ค่าอินเทอร์เน็ต และแก้ไขปัญหาด้านการเกษตร
อย่างไรก็ตาม ครม.มีมติ ห็นชอบและรับทราบมาตรการของขวัญปีใหม่ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ เพื่อประชาชนทุกช่วงวัย 14 กิจกรรม โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้
1. กิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนทุกช่วงวัย 11 กิจกรรม แบ่งเป็น
1.1 กิจกรรมเกี่ยวกับการเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศและภูมิสารสนเทศและดาราศาสตร์ 3 กิจกรรม คือ 1.ให้บริการแหล่งการเรียนรู้ด้านอวกาศและภูมิสารสนเทศ (Space Inspirium) ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 65 – 1 ม.ค. 66 ณ Space Inspirium ในพื้นที่อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ อ. ศรีราชา จ. ชลบุรี 2.ชมนิทรรศการด้านดาราศาสตร์ Night at the Museum เปิดประสบการณ์ชมนิทรรศการดาราศาสตร์และท้องฟ้าจำลองรอบพิเศษยามค่ำคืนและกิจกรรมดูดาวผ่านท้องฟ้าจริง ระหว่างวันที่ 23-25 ธ.ค. 65 และ 3.NARIT Public Night Countdown 2023 ชมพาเหรดดาวเคราะห์ (อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ ยูเรนัส) ดูดาวข้ามปี และร่วมนับถอยหลังเริ่มศักราชใหม่ ในวันที่ 31 ธ.ค. 65 ณ อุทยานดาราศาสตร์ สิรินธร จ. เชียงใหม่ และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ. นครราชสีมา จ. ฉะเชิงเทรา และ จ. สงขลา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
1.2 จัดเต็มความสนุกสนาน ฟรี! โดยจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ ในพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 65 – 8 ม.ค. 66 ได้แก่ 1.กิจกรรมห้องทดลองวิทยาศาสตร์ (Science Lab) ณ อพวช. คลองห้า จ. ปทุมธานี และจัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. (เดอะสตรีท รัชดา กรุงเทพฯ จ. เชียงใหม่ และ จ. นครราชสีมา) และ 2.การแสดง ทางวิทยาศาสตร์ Science Show โชว์สุดมหัศจรรย์ ณ อพวช. คลองห้า ปทุมธานี
1.3 เปิดตัวแพลตฟอร์ม Traffy Fondue 2023 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมืองเวอร์ชันใหม่ที่ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งเปิดตัวไลน์แชทบอท Fondue Manager เพื่อยกระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนให้สะดวกง่ายขึ้นผ่านทาง LINE และเจ้าหน้าที่สามารถบริหารจัดการปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ทุกที่ ทุกเวลา “ฟรี” ทุกหน่วยงานทั่วประเทศ
1.4 จัดทำแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันเกี่ยวกับสุขภาพ ได้แก่ 1.A-MED Telehealth แพลตฟอร์มดิจิทัลดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เป็นระบบบริการทางการแพทย์ทางไกล และ 2.“แอปพลิเคชันรู้ทัน” สื่อสารความเสี่ยง ด้านสุขภาพ ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงหรือรับการแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสาร ที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างสะดวกและรวดเร็วจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น การแพร่ระบาดของไข้เลือดออก สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 และดัชนีความร้อน ที่นำไปสู่โรคลมแดด และพร้อมขยายผลสู่ความเสี่ยงสุขภาพอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต
1.5 แพลตฟอร์ม BrighterBee Talent Solution ที่เปิดให้นักศึกษาสามารถค้นหาโอกาสทางอาชีพทั้งในองค์กรขนาดใหญ่และ Start Up ในหลากหลายอุตสาหกรรม ช่วยสร้างโปรไฟล์อย่างมืออาชีพ รวมทั้งมีหลักสูตรที่รวบรวม ไว้ในแพลตฟอร์มนี้กว่า 250 หลักสูตร ให้เข้าไปเรียนรู้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
1.6 กิจกรรม ณ สถานีวิจัยลำตะคอง ระหว่างเดือน ธ.ค. 65 - ม.ค. 66 โดยให้บริการจุดพักรถในช่วงการเดินทางไปภาคอีสาน เส้นทาง ถ. มิตรภาพ และจุด check-in ทุ่งดอกผักเสี้ยนบานและซุ้มดอกไม้นานาพรรณให้เข้าชมฟรี
2. กิจกรรมเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ ภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรม 3 กิจกรรม แบ่งเป็น
2.1 ลดค่าบริการในการทดสอบและสอบเทียบแบบปกติ ร้อยละ 30 ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.- 31 มี.ค. 66 เพื่อสนับสนุนบริการทางวิทยาศาสตร์และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ SME ภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป
2.2 ไลน์บอทโรคข้าว (Rice Disease Linebot) : โมบายแอปพลิเคชันเพื่อการวินิจฉัยโรคข้าว เพื่อให้เกษตรกรหรือผู้ใช้งานที่พบต้นข้าวที่สงสัยว่าจะเป็นโรค สามารถถ่ายรูปแล้วอัปโหลดรูปเข้าในกลุ่มไลน์บอท เพื่อวิเคราะห์โรคข้าว และระบบจะส่งคำวินิจฉัยตอบกลับมาพร้อมคำแนะนำในการแก้ไข
2.3 การจัดการความรู้เพื่อการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวปิ่นเกษตรและการปลูกพืชหลังนา โดยจัดกิจกรรมการบริการวิชาการในการพัฒนาการผลิตข้าวและชาวนาไทยในพื้นที่ชุมชน 5 จังหวัด (นครปฐม ราชบุรี ชัยนาท อุทัยธานี และนครศรีธรรมราช) เพื่อเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพด้านแรงงาน การนำผลผลิตมาพัฒนาต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่ม ยกระดับรายได้และลดต้นทุนสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน
ถัดมาเป็น ครม.เห็นชอบ มาตรการการดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1.มาตรการ “ช้อปดีมีคืน ปี 66” เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2566 ถึงวันที่ 15 ก.พ.2566 โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท โดยแบ่งเป็น
1)ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวน 30,000 บาทแรก ออกใบกำกับภาษีแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์ 2)ค่าซื้อสินค้าหรือบริการ อีกจำนวน 10,000 บาท ออกใบกำกับภาษีรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับสินค้าที่เข้าร่วมมาตรการ เช่น ค่าซื้อสินค้า และค่าบริการทุกประเภทที่ซื้อจากผู้ประกอบการ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าสินค้า OTOP แต่ไม่รวมถึงสินค้าและบริการ 10 ประการ ดังนี้ ค่าซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ค่าซื้อยาสูบ ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ ค่าซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต ค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว ซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 ม.ค. 66 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 ก.พ. 66 และค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากมาตรการ “ช้อปดีมีคืน ปี 66” จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมูลค่าประมาณ 56,000 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์ มวลรวมเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.16 และ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะเป็นการขยายฐานภาษี และสนับสนุนการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์
2.มาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2566 โดยลดภาษีให้ในอัตราร้อยละ 15 ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของปีภาษี พ.ศ.2566
3.มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยปี 2566 โดยลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 1 และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม ร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด (ทั้งบ้านมือ 1และมือ 2) เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อสัญญา
4.มาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิต สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นที่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับอากาศยานภายในประเทศ โดยลดอัตราภาษีตามปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ใช้บินในประเทศ จากลิตรละ 4.726 บาท เหลือลิตรละ 0.20 บาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน 2566 เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและบริการให้มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและบรรเทาผลกระทบการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและสายการบินภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19
5.มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ตาม พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ให้สิทธิยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 สำหรับผู้ประกอบการที่ประสงค์จะประกอบกิจการต่อเนื่อง ณ สถานประกอบการเดิม ประเภทใบอนุญาตเดิม ที่ยื่นคำขอระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2566 เพื่อลดภาระของผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องภายหลังสถานการณ์โควิด19
ส่วนมาตรการและโครงการของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2566 ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ อาทิ
1.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เช่น โครงการชำระดีมีคืน ลดดอกเบี้ยแก้หนี้ภาคครัวเรือน มาตรการส่งเสริมสภาพคล่องและฟื้นฟู
2.ธนาคารออมสิน เช่น โครงการวินัยดี มีเงิน
3.บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เช่น ยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ SMEs
4.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศ (ธพว.) เช่น ผ่อนดีมีคืน (บัตรกำนันสูงสุด 300 บาท) มาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า ยังมีมาตรการและโครงการของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2566 จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง 5 โครงการ ได้แก่
1)มาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2566 จากกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
2)มาตรการของขวัญปีใหม่ปี 2566 ให้กับลูกค้ารายย่อยที่ไม่มีหลักประกัน/ผู้ค้ำประกัน จากบริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด (บสอ.)
3)โครงการเที่ยวปีใหม่สุขใจไปกับพิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2566 ให้แก่ประชาชน จากกรมธนารักษ์
4)โครงการสนับสนุนตลาดทุนและเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนลดภาระแก่ผู้ประกอบธุรกิจเพื่อความสุขที่มั่นคงของทุกภาคส่วน จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทัพย์ (ก.ล.ต.)
5)โครงการส่งเสริมให้ประชาชนและผู้ลงทุนมีศักยภาพในการสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดี และมีภูมิคุ้มกัน ไม่ถูกหลอกลวง จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทัพย์ (ก.ล.ต.)
6)โครงการกรมธรรม์ประกันภัยรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) สำหรับเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกบิธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
7)โครงการ "ชม ชิม ช็อป ยาสูบเชียงราย" จากการยาสูบแห่งประเทศไทย
ตบท้ายด้วย ของขวัญปีใหม่จากทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยครม.เห็นชอบ ตามที่เสนอให้ ประชาชนมีบ้านอยู่อาศัยที่อบอุ่นและมีรายได้จากการสร้างอาชีพ โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1. ซ่อมบ้าน สร้างสุข จำนวน 50,000 หลัง ให้บ้านของเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และครอบครัวผู้มีรายได้น้อยมีความมั่นคงปลอดภัย มีมาตรฐาน มีสภาพแวดล้อมและระบบสาธารณูปโภคที่เหมาะสม ตามหลักการการออกแบบเพื่อคนทั้งมวล (Universal Design) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างชุมชน หน่วยงานท้องถิ่น และภาคประชาสังคม โดยบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนในการดำเนินการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย
2. บ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อย 15,000 หน่วย โดยแบ่งออกเป็นโครงการบ้านเช่า 1,500 บาทต่อเดือน (50 บาทต่อวัน) จำนวน 5,000 หน่วยของการเคหะแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่ดี สังคมที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน และโครงการบ้านเช่าซื้อ จำนวน 10,000 หน่วย ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพื่อส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เข้าถึงแหล่งเงินเพื่อที่อยู่อาศัยได้อย่างเสมอภาค
3. สร้างอาชีพ สร้างรายได้ จำนวน 15,300 คน โดยแบ่งออกเป็น 3 โครงการ คือ
3.1.สร้างผู้ดูแลเด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบางติดเตียง (Care Giver) จำนวน 10,000 คน โดยการพัฒนาองค์ความรู้และทักษะในการดูแลคนพิการ ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบางติดเตียง ให้แก่กลุ่มเป้าหมายใน 3 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรพื้นฐาน (18 ชั่วโมง) หลักสูตรระยะกลาง (70 ชั่วโมง) และหลักสูตรระยะยาว (420 ชั่วโมง) ที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในกลุ่ม 10,000 คนนี้นอกจากจะมีอาชีพและรายได้แล้วยังสามารถสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับกลุ่มเปราะบางที่ดูแลด้วย
3.2.สร้างอาชีพธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการ สำหรับแม่เลี้ยงเดี่ยว กลุ่มเปราะบาง และผู้ว่างงาน จำนวน 5,000 คน โดยการส่งเสริมและพัฒนาทักษะอาชีพใหม่ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะในธุรกิจการท่องเที่ยว สถาบันเสริมความงาม ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม และร้านสปา พร้อมทั้งส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้โดยส่งเสริมทักษะที่ครบวงจรในการประกอบอาชีพเพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
3.3.สร้างนักขายมือทอง จำนวน 300 คน โดยพัฒนาทักษะด้านการขายไปสู่การเป็นนักขายมืออาชีพให้แก่นักเรียน นักศึกษา และผู้ว่างงานที่สนใจได้เข้าร่วมแนะนำโครงการคหะแห่งชาติทั่วประเทศ โดยได้รับค่าตอบแทนเหมาะสม เพื่อส่งเสริมให้ประชานมีรายได้