เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ครม.เคาะงบกลาง 6.6 พันล้าน ให้ส่วนลดผู้ใช้ไฟบ้านไม่เกิน 500 หน่วย อีก 4 เดือน


20 ธ.ค. 2565, 16:07



ครม.เคาะงบกลาง 6.6 พันล้าน ให้ส่วนลดผู้ใช้ไฟบ้านไม่เกิน 500 หน่วย อีก 4 เดือน




วันนี้ ( 20 ธ.ค.65 ) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 ธันวาคม 2565 มีมติเห็นชอบมาตรการเร่งด่วนด้านพลังงานเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2565 ตามที่กระทรวงมมหาดไทยเสนอ โดยพิจารณาอนุมัติให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคใช้จ่ายในวงเงินรวม 6,693.31 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินจากงบประมาณปี 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับค่าไฟฟ้าเดือน ต.ค. - ธ.ค. 2565 เพื่อให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วย/เดือน โดยให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเบิกจ่ายเงินจากสำนักงบประมาณต่อไป

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการของมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านไฟฟ้า โดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน เป็นเวลา 4 เดือน สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือน ก.ย. - ธ.ค. 2565 แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ส่วนลด 92.04 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย (กลุ่มเปราะบาง) ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน และกลุ่มที่ 2 ส่วนลดค่า Ft แบบขั้นบันไดร้อยละ 15-75 (จำนวน 10.30-51.50 สตางค์ต่อหน่วย) สำหรับกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือน ซึ่ง ครม.มีมติเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 อนุมัติงบกลางปี 2565 ให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ใช้จ่ายในวงเงิน 2,231.10 ล้านบาท เพื่อให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าของเดือนกันยายน 2565 ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน

“สำหรับส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าของเดือน ต.ค.-ธ.ค. 2565 ที่ทางการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ประมาณการงบประมาณที่ใช้ดำเนินการ 6,693.31 ล้านบาทนั้น ครม.เห็นชอบให้ใช้จ่ายจากงบประมาณกลางปี 2566 โดยจะเบิกจ่ายจากงบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป ซึ่งทางการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไปด้วย” น.ส.ทิพานัน กล่าว









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.