โดยนายดิเรก เล่าว่า ตนเองมีเงินอยู่ในบัญชีธนาคารกรุงเทพฯซึ่งเป็นบัญชีเงินเดือนและโบนัสรวมกันอยู่เป็นจำนวน 19,500 บาท และในวันที่ 30 Tyo;k8, 2565 ตนเองได้มีการถอนออกมา 9000 บาท และโอนให้เพื่อนอีก 400 บาท คงเหลือเงินอยู่ในบัญชี 11,601 บาท ต่อมาตนเองได้ไปช่วยงานศพเพื่อนบ้านและได้นำโทรศัพท์วางไว้บนโต๊ะ มีการล็อครหัสหน้าจอเรียบร้อยและวางไว้ไม่ได้มีการแตะต้องโทรศัพท์แต่อย่างได โดยมีเพื่อนหลายๆคนอยู่ในเหตุการณ์และเห็นอยู่ต่อมาเวลาประมาณ 18:24 น. วันที่ 30 ได้รับข้อความจากทางโทรศัพท์ว่ามีการโอนเงินให้กับนายนายนิพนธ์ จะพือ ดังกล่าวในจำนวนเงิน 11,601 บาท เหลือเพียงเงินในบัญชีเพียง 31 สตางค์ จึงได้ทำการแจ้งอายัดไว้ตอนที่เงินดังกล่าวถูกโอนออกไป ต่อมาจึงได้เข้าไปติดต่อกับทางธนาคารแต่ทางธนาคารก็แนะนำให้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตนเองเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าที่ตำรวจแต่เจ้าที่ตำรวจ ระบุ ให้ติดต่อกับทางธนาคารเนื่องจากไม่สามารถที่จะแจ้งข้อกล่าวหาและรับแจ้งความได้ จึงเดินทางเข้าแจ้งกับทางธนาคารอีกรอบ ซึ่งทางธนาคารก็บ่ายเบี่ยงให้เข้าแจ้งความกับเจ้าที่ตำรวจ จนตนเองเดินทางไปมาหลายรอบโดยที่ไม่รู้ว่าจะหาที่พึ่งทางใดจึงเข้าร้องต่อสื่อเพื่อให้ช่วยเหลือกับกรณีดังกล่าว เพราะถ้าหากเกิดขึ้นกับคนอื่น หรือบุคคลอื่น จะต้องดำเนินการอย่างไร ซึ่งตนเองนั้นก็ไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ในเมื่อเหตุการณ์ดังกล่าว เป็น ลักษณะนี้ ซึ่งมีการโอนเงินโดยที่ตนเองไม่ได้มีการแตะต้องกับโทรศัพท์แต่อย่างใดและเข้า ทำการแจ้งให้กับธนาคารและเจ้าที่ตำรวจ ก็ไม่ได้รับการตอบสนองและช่วยเหลือแต่อย่างใด

สัมภาษณ์...นายดิเรก อิ่นคำ อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 65 หมู่ 6 ตำบลทุ่งผาสุก อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา โทร.080-8469978