ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ภายหลังจากที่ศาลนนทบุรี อนุมัติหมายจับเจ้าของงานปาร์ตี้พร้อมพวก รวม 6 คน ได้แก่ นายชัยพล พรรณนา (คิว) อายุ 29 ปี น.ส.พิกุลทอง บุญภา (เฟิร์ส) อายุ 24 ปี นายนที สถิตพงษ์สถาพร (ตี๋) อายุ 33 ปี น.ส.พัทธนันท์ รักษากุล (ปีใหม่) อายุ 26 ปี นายโกเศศ ฤทธิ์นิธิฤกษ์ (ปิงปอง) อายุ 35 ปี และนายกฤษฎา โลหิตดี (โนบิตะ) อายุ 27 ปี ชาว จ.อุดรธานี ในข้อหา “อั้งยี่ซ่องโจรและร่วมกันกระทำอนาจาร” ในคดีที่เดียร์ พริตตี้สาวเป็นผู้เสียหาย

 

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ ( 26 ก.ย.62 ) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านหลังหนึ่ง ที่บ้านเลี่ยมพิลึก ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของ นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิตะ หนึ่งใน 6 ของผู้ที่ถูกศาลนนทบุรี ออกหมายจับ ที่เป็นชาว จ.อุดรธานี พบกับแม่และป้าของ นายกฤษฎา อยู่ที่บ้าน (สงวนชื่อ นามสกุล ) ที่ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเรื่องของ นายกฤษฎา

โดยแม่และป้าของ นายกฤษฎา เปิดเผยว่า ทราบเรื่องที่ลูกชายถูกออกหมายจับแล้ว และเขาก็ไม่ได้หนีไปไหน เช้าวันนี้เขาก็ไปทำงานของเขาปกติ ซึ่งตัวของอาร์ท (นายกฤษฎา) โทรศัพท์มาบอก ที่ผ่านมาลูกชายมีเรื่องอะไรเขาจะเล่าให้แม่ฟังตลอด แม้แต่เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ โดยวันที่เกิดเหตุ วันนั้นลูกชาย เดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อไปรับตั๋วทนายว่าความ หลังจากที่ได้พยายามสอบมา 2 ปี ซึ่งลูกชายเป็นเพื่อนกับ นายชัยพล หรือ คิว เจ้าของบ้านและเจ้าของงาน ที่เรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน

แม่ของทนายโนบิตะ เปิดเผยอีกว่า วันนั้นลูกชายเข้าไปกรุงเทพฯ เขาได้ติดต่อกับคิว ตามประสาเพื่อนฝูง และไปหาคิวที่บ้านบางบัวทอง ปกติลูกชายเป็นคนที่ไม่ดื่มกิน แต่วันนั้นเขาก็ดื่มกินกับคิวนิดหน่อย และอยู่ในงาน ซึ่งเขาก็เห็นน้ำอุ่นพาลัลลาเบลออกไป ลูกชายยังเป็นห่วงกลัวว่าลัลลาเบล จะเป็นอะไรไปหรือเปล่า เพราะเห็นว่าผู้หญิงเมามาก

ส่วนตัวของลูกชายเวลาเขาอยู่อุดรธานี เขาจะเป็นจิตอาสา ออกไปช่วยมูลนิธิในอุดรธานี ไปช่วยคนเจ็บคนตาย เขาทำมานานตั้งแต่อายุ 13 ปี จนออกรถตู้มาวิ่งช่วยเหลือคนเจ็บคนป่วยคนตาย ตอนนั้นลูกชายก็เห็นอาการน้องเขา เขายังเป็นห่วง ซึ่งกลุ่มเขาจะมีกลุ่มไลน์กัน เขายังไลน์ไปบอกน้ำอุ่น เป็นห่วงอาการของน้องเขา เพราะเขาเคยช่วยเหลือคนป่วยมาก่อน

หลังจากเลิกงานปาร์ตี้และทำธุระเรื่องรับตั๋วทนายเสร็จแล้ว ลูกชายก็เดินทางกลับ จ.อุดรธานี จนล่าสุดมีตำรวจเรียกไปสอบถาม เขาก็เล่าเรื่องให้ฟังทุกอย่าง ตอนแรก ทางตำรวจบอกว่าไม่มีอะไร แต่สุดท้ายลูกชายก็มาถูกออกหมายจับ ตอนแรกก็ตกใจ แต่ก็มาคิดว่า คงเป็นกรรมเก่าที่พวกเขาทำกันมา เพราะปกติแล้ว ลูกชายเขาจะเข้าวัดตลอด นุ่งขาวห่มขาว นั่งสมาธิ ตอนเรียนที่กรุงเทพฯ เขาก็นอนที่วัด อยู่อุดรก็เข้าวัดบ่อย ตนมั่นใจว่า ลูกชายไม่ได้ทำอะไรตามที่ถูกกล่าวหา    

“ก่อนหน้านี้มีตำรวจมาหาลูกชายที่บ้าน บอกให้ลูกชายมาพบ เพราะมีหมายจับ ทางเราก็ติดต่อไปให้ และเตรียมเอาโฉนดที่ดิน จะเอาไปประเมินเพื่อประกันตัวเขา แต่ลูกบอก โดยได้รับปากตำรวจว่า เย็นนี้เขาจะเข้ากรุงเทพฯ ไปมอบตัว โดยจะนำเงินสดของทนายรุ่นพี่ไปไว้ประกันตัว ส่วนทางแม่จะนำโฉนดที่ดินไปประเมินราคา และจะตามเข้าไป เพื่อเอาโฉนดที่ดินไปวางประกันแทนเงินสด ที่จะคืนเจ้าของไป ซึ่งลูกชายไม่หนีอย่างแน่นอน เพราเขาบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหา” แม่ของทนายโนบิตะ กล่าว