โจรเหิมบุกบ้านยายวัย 70 ขณะใส่บาตร ก่อนวิ่งใช้ผ้าคุลมหัวยาย กระโดดหน้าต่างหนี
9 ม.ค. 2566, 16:30
วันที่ 9 ม.ค. 66 กล้องวงจรปิดภายในบ้านเลขที่ 152 หมู่ที่ 1 ตำบลศรีพราน อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง จับภาพในช่วงเวลา 07.14 - 07.24 น. ของวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา พบเห็น นาง เฉลียว ช่างบรรจง อายุ 70 ปี เจ้าของบ้าน กำลังโทรศัพท์คุยกับลูกสาว ว่าเมื่อเช้าขณะใส่บาตรหน้าบ้าน พระสงฆ์เห็นหัวขโมยเดินขึ้นบันไดบ้าน จึงได้เดินขึ้นมาตรวจดูบนบ้าน พบว่ากล้องวงจรปิดที่อยู่กลางบ้านถูกดึงสายไฟออก จึงเสียบกลับเข้าไปใหม่ แล้วจึงเดินหาหัวขโมยที่เดินขึ้นมาบนบ้านตามห้องภายในบ้านแต่ไม่พบเจอ แล้วมานั่งโซฟาตรงกลางบ้าน
ขณะที่นั่งอยู่บนโซฟาไม่ทันได้ตั้งตัว หัวขโมยที่แอบอยู่ในม่านหลังทีวี ได้วิ่งออกมาจากที่ซ่อนภายในบ้าน เป็นคนรูปร่างท้วม สูงประมาณ 170 เซนติเมตร นุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน คลุมหน้าด้วยหมวกใหมพรม สวมถุงมือทั้ง 2 ข้าง แล้ววิ่งเอาผ้ามาคลุมศรีษะยาย สร้างความตกใจให้กับยาย ก่อนตะโกนขอความช่วยเหลือจากญาติข้างบ้านว่าขโมยขึ้นบ้าน ส่วนหัวขโมยได้วิ่งหนีกระโดดหน้าต่างบ้านลงไป แล้ววิ่งหนีหายไปในป่าข้างบ้าน
จากการสอบถาม คุณยายเฉลียว เล่าให้ฟังว่า ตนเองอยู่บ้านเพียงลำพัง แต่มีบ้านญาติพี่น้องอยู่ติดกันหลายหลัง ส่วนลูกไปทำงานต่างจังหวัด เมื่อเช้าวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนเองตื่นเช้าไปรอใส่บาตรอยู่หน้าบ้าน ขณะที่ใส่บาตรนั้น พระสงฆ์ได้พบเห็นหัวขโมยคลุมหน้าเดินขึ้นบันไดบ้านไป เมื่อตนเองใส่บาตรเสร็จแล้วจึงเดินขึ้นบ้าน พร้อมโทรศัพท์พูดคุยกับลูกสาว และพบเห็นว่าปลั๊กสายไฟกล้องวงจรปิดถูกดึกออก จึงเสียบกลับเข้าไปใหม่ และเดินพูดคุยอยู่กับลูกสาวอยู่ภายในบ้าน พร้อมกับเดินหาหัวขโมยไปด้วยแต่ไม่พบเจอ ก่อนไปนั่งลงตรงโซฟากลางบ้าน จากนั้นหัวขโมยได้ออกจากที่ซ่อน เอาผ้าขาวมาคลุมหัวตนเอง แล้วกระโดดหนีลงหน้าต่างบ้านไป ต้องสูญเงินที่อยู่ในกระเป๋าที่วางอยู่บนบ้านกว่าหมื่นบาท หลังเกิดเหตุจึงตะโกนให้ญาตี่น้องช่วยจับหัวขโมยแต่ไม่ทัน คนร้ายวิ่งหนีหายไปในป่าข้างบ้าน ซึ่งญาติที่อยู่บริเวณหน้าบ้านพบเห็นคนวิ่งผ่านเข้าป่าข้างบ้านหนีไป แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร
ส่วนทางด้าน นาง หยวด กันภัย อายุ 73 ปี พี่สาว ที่อยู่บ้านติดกัน เล่าให้ฟังว่า บ้านของตนเองก็โดนขโมยขึ้นบ้านมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกสูญไปสองหมื่นกว่าบาท และครั้งล่าสุดเมื่อ 3 – 4 เดือนที่ผ่านมา ก็ถูกขโมยเข้าบ้านสูญเงินไปกว่าสามหมื่นบาท ซึ่งบริเวณดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับวัดบ้านพราน ที่หัวขโมยออกอาละวาดงัดวิหารมาแล้วถึง 2 ครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อคืนวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมา แต่ก็จับโจรมาดำเนินคดีไม่ได้