ตร.เผยเสี่ยเบนท์ลีย์ ไม่เป่าแอลกอฮอล์ เพราะเจ็บหน้าอก-ลมไม่พอ ยันทำงานโปร่งใส
9 ม.ค. 2566, 18:10
วันที่ 9 ม.ค.66 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น.ดูแลงานจราจร เปิดเผยว่า อุบัติเหตุเฉี่ยวชนบนทางด่วนเวลา 00.35 น. วันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่ผู้ขับขี่รถยนต์เบนท์ลีย์เฉี่ยวชนรถ 2 คัน มีผู้บาดเจ็บ 8 คน ออกจากโรงพยาบาล 5 คน พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 คน ต้องรอผลการตรวจสอบบาดแผลจากทางแพทย์ว่ามีอาการบาดเจ็บสาหัสหรือไม่
ส่วนการดำเนินคดีนั้น พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาขับรถเฉี่ยวชนผู้อื่นเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายและได้รับบาดเจ็บ ส่วนข้อหาเพิ่มเติมนั้น พนักงานสอบสวนรอผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์และสารเสพติดจากโรงพยาบาลตำรวจคาดว่าจะได้ภายในวันที่ 10 ม.ค. นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับการใช้ความเร็วรถ หากตรวจสอบพบกระทำความผิดก็ต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
ส่วนประเด็นผู้ต้องหาปฏิเสธการใช้เครื่องเมือวัดแอลกอฮอล์ พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวผู้ขับขี่รถเบนท์ลีย์ยินยอมให้ตรวจเลือดว่ามีแอลกอฮอล์หรือไม่ แต่กรณีการเป่านั้น คนขับรถได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอก อาจจะทำให้แรงลมการเป่าไม่เพียงพอ ทำให้เครื่องวัดไม่เสถียร พนักงานสอบสวนจึงใช้วิธีการตรวจเลือด ซึ่งเป็นส่วนที่ยืนยันได้ชัดเจน
เมื่อถามว่าการตรวจสอบป้ายทะเบียนเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลการกระทำเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีรถที่ใช้เกิดอุบัติเหตุ
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า กฎหมายมีการพิจารณาการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ไม่ยินยอมให้ตรวจให้สันนิษฐานว่าเป็นผู้ที่ขับขี่รถในขณะเมาสุรา แต่กรณีดังกล่าวเป็นการยินยอมให้ตรวจ อย่างไรก็ตาม กรณีการตัดแต้มดังกล่าวหากเมาและขับจะถูกตัด 4 คะแนน ถือว่าเป็นกรณีการตัดคะแนนมากที่สุด