เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



กสิกรไทยมอบหอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก มูลค่า 33.6 ล้าน แก่โรงพยาบาลสระบุรี


10 ม.ค. 2566, 15:47



กสิกรไทยมอบหอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก มูลค่า 33.6 ล้าน แก่โรงพยาบาลสระบุรี





วันที่ 10 มกราคม 2566 นาย วัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นาย ผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธาน พิธีรับมอบหอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก  โดยความร่วมมือระหว่าง บจม.ธนาคารกสิกรไทย และโรงพยาบาลสระบุรี กระทรวงสาธารณสุข มีคุณ ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย  เป็นผู้มอบ โดยมี นายแพทย์ อนันต์ กมลเนตร ผู้อำนวยโรงพยาบาลสระบุรี เป็นผู้รับมอบ เป็นจำนวนเงิน 33,600,000 ล้านบาท  ณ ห้องประชุมพลเอกเกษตร -คุณหญิงวันทนา โรจนนิล โรงพยาบาลสระบุรี  
ธนาคารกสิกรไทย ร่วมสมทบทุน 33.6 ล้านบาทให้โรงพยาบาลสระบุรี สร้างหอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก พร้อมจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ รองรับการผ่าตัดหัวใจแบบเปีด-ผ่าตัดลิ้นหัวใจ เพื่อขยายการบริการให้ผู้ป่วยในพื้นที่จังหวัดสระบุรีและใกล้เคียงได้รับการผ่าตัดเร็วขึ้น ตอกย้ำความมุ่งมั่นของธนาคารที่ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีช่วยพัฒนาบริการทางการแพทย์ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย นำไปสู่การขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เผยในอนาคตธนาคารเตรียมพัฒนาโครงการเพื่อช่วยส่งเสริมให้ประชาชนสามารถใช้บริการจากผู้ให้บริการขนาดเล็กที่มีคุณภาพ ทั้งผู้ให้บริการคลินิก หรือบริการผ่านเทคโนโลยีเฮลท์เทค อย่างทั่วถึง
  นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยดำเนินธุรกิจควบคู่กับการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ โดยให้ความสำคัญแก่การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาช่วยยกระดับบริการในอุตสาหกรรมต่าง "โดยเฉพาะบริการด้านสุขภาพที่เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างคุณภาฬชีวิตที่ดี อีกทั้งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเดิบโตและการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ธนาคารจึงได้เข้าร่วมพัฒนาระบบนิเวศ การดูแลสุขภาพของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง - โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมบริการในโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ที่ต้องรองรับการใช้บริการของประชาชนจำนวนมาก ล่าสุด ธนาคารกสิกร์ไทยได้สนับสนุนงบประมาณ 33.6 ล้านบาท แก่โรงพยาบาลสระบุรี เพื่อสร้างหอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก พร้อมจัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์ รองรับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด-ผ่าตัดลิ้นหัวใจ เพื่อให้โรงพยาบาลสระบุรีซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง สามารถรองรับผู้ป่วยโรคหัวใจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สร้างโอกาสและความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขให้แก่ผู้ใช้บริการทั้งในจังหวัดสระบุรีและใกล้เคียง
 ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทยจะเดินหน้าร่วมพัฒนาระบบนิเวศการดูแลสุขภาพของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วยความมุ่งหวังที่จะร่วมเป็นกำลังสำคัญของประเทศในการช่วยให้ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะดูแลประชาชน และรับมือกับสถานการณ์การเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ของประเทศมากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมาธนาคารได้มีการร่วมพัฒนาดิจิทัลเฮลท์แคร์แพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการด้านสุขภาพให้แก่โรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลภาครัฐขนาดใหญ่ต่าง ๆ รวมทั้งการพัฒนาแอปพลิเคชั่น "หมอพร้อม" ของกระทรวงสาธารณสุข และ "หมอ กทม." ของกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ ในอนาคตธนาคารจะมีการพัฒนาโครงการเพื่อช่วยส่งเสริมให้ประชาชนสามารถใช้บริการจากผู้ให้บริการขนาดเล็กที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการคลินิก หรือบริการผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่าเฮลท์เทคได้อย่างทั่วถึง
นายแพทย์อนันต์ กมลเนตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระบุรี เปิดเผยว่า โรงพยาบาลสระบุรี เป็นโรงพยาบาลศูนย์ระดับตติยภูมิ ขนาด 700 เตียง ในเขตสุขภาพที่ 4 สังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีศักยภาพเป็นศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะโรค ได้แก่ โรคมะเร็ง ทารกแรกเกิด อุบัติเหตุ โรคหัวใจ และการปลูกถ่ายอวัยวะ อีกทั้งทำหน้าเป็นศูนย์รับส่งต่อผู้ป่วยที่มีอาการชับซ้อนในจังหวัดสระบุรีและใกล้เคียง ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2555 โรงพยาบาลสระบุรีได้เริ่มพัฒนาศักยภาพเพื่อเปิดบริการศูนย์โรคหัวใจดูแลผู้ป่วยในเขตสุขภาพที่ 4 เนื่องจากสถิติพบว่า มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในทุกปี โดยมีทีมแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจที่สามารถรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะเส้นเลือดหัวใจอุดตันด้วยวิธีการสวนหัวใจด้วยบอลลูนเพื่อขยายหลอดเลือด โดยในปี 2561-2564 มีผู้ป่วยได้รับการสวนหัวใจประมาณ 800-1,000 รายต่อปี แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องบุคลากรทางแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจต้านผ่าตัดหัวใจแบบเปีด  ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยที่ต้องรอคิวการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด 60-80 รายต่อปี ระยะเวลารอคอยประมาณ 1-2 เดือน และรอคิวผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจประมาณ 40-50 รายต่อปี ระยะเวลารอคอยประมาณ1 ปี  
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่ได้กล่าวมาข้างตัน ทีมผู้บริหารของโรงพยาบาลจึงได้วางแผนดำเนินการมาโดยตลอดจนสามารถทำการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด (Opened Heart Surger/) ให้กับผู้ป่วยรายแรกได้สำเร็จ เมื่อเดือนมกราคม  2565 ขณะเดียวกันได้มีแพทย์ศัลยกรรมทรวงอก สำเร็จการศึกษากลับมาประจำการเพิ่มอีก 2 คน โรงพยาบาลจึงได้วางแผนขยายการให้บริการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดให้กับผู้ป่วยที่รอคิวผ่าตัดเป็นจำนวนมาก โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากธนาคารกสิกรไทย ในการปรับปรุงพื้นที่ภายในอาคาร 100 ปีสาธารณสุขไทย ชั้น 6 เพื่อเปิดบริการหอผู้ป่วยวิกฤตสำหรับดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจ (ICU CVT) จำนวน 8 เตียง รวมทั้งจัดหาครุภัณฑ์ที่จำเป็นโดยได้ดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2565 ที่ผ่านมา
  นายแพทย์อนันต์ กล่าวด้วยว่า เมื่อโรงพยาบาลสามารถเปิดให้บริการหอผู้ป่วยวิกฤตสำหรับดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจ (ICU CVT) จะทำให้โรงพยาบาลสามารถปิดบริการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดได้ตามแผนที่กำหนดไว้ผู้ป่วยได้รับการดูแลหลังผ่าตัดตามมาตรฐาน สามารถลดระยะเวลารอคอยในผู้ป่วยโรคหัวใจที่ได้รับการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลสระบุรีและที่จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด และที่สำคัญโรงพยาบาลสระบุรีมีห้องผู้ป่วยวิกฤตสำหรับดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจที่มีความพร้อมในด้านอุปกรณ์ทีมแพทย์ และพยาบาลทีมสหสาขาวิชาชีพ ที่มีศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยในอนาคต

 

 





คำที่เกี่ยวข้อง : #สระบุรี  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.