วันนี้ ( 11 ม.ค.66 ) เวลา 14.30 น. ณ ห้องรับรองรองนายกรัฐมนตรี ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายซัยยิด เรซา โนบัคตี (H.E. Mr. Seyed Reza Nobakhti) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
 
รองนายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบหารือกับเอกอัครราชทูตอิหร่านฯ ในวันนี้ ชื่นชมความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันที่ดำเนินมาอย่างราบรื่นและยาวนาน โดยรองนายกรัฐมนตรีพร้อมส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้แทนระดับสูงระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนผลักดันให้เกิดความร่วมมือในสาขาที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน ทั้งในด้านความมั่นคง พลังงาน เศรษฐกิจ การค้า สังคมและวัฒนธรรม และสาธารณสุข รวมถึงความร่วมมือในรูปแบบใหม่ ๆ พร้อมทั้งผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม 
 
เอกอัครราชทูตอิหร่านฯ ขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าเยี่ยมคารวะในวันนี้ ยินดีที่ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน โดยในปีนี้ถือเป็นปีครบรอบ 444 ปีความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอิหร่าน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตอิหร่านได้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวาระสำคัญดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตอิหร่านฯ เห็นว่า ไทยกับอิหร่านมีความร่วมมือกันได้อีกมาก โดยเฉพาะความร่วมมือทางด้านการแพทย์ สินค้าเกษตร การต่อต้านการก่อการร้าย และยุทโธปกรณ์ ซึ่งอิหร่านมีความเชี่ยวชาญและพร้อมมีความร่วมมือกับฝ่ายไทย
 
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือที่สำคัญระหว่างกัน ดังนี้ 
 
ด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ไทยและอิหร่านยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนการค้าการลงทุนระหว่างกัน รองนายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้มีการหารือร่วมกันเพื่อหาแนวทางการลดอุปสรรคและส่งเสริมความร่วมมือ โดยเฉพาะการผลักดันการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนข้าวของไทยกับปุ๋ยของอิหร่านให้เป็นผลสำเร็จ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นและแนวทางในการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าอื่น ๆ ต่อไป ด้านเอกอัครราชทูตอิหร่านฯ พร้อมสนับสนุนให้มีการซื้อข้าวจากฝ่ายไทยมากขึ้น อิหร่านซื้อข้าวหอมมะลิจากไทยทุกปี และคาดว่าปีนี้จะมีการซื้อข้าวจากไทยมากขึ้น
 
ด้านการท่องเที่ยว รองนายกรัฐมนตรียินดีที่นักท่องเที่ยวอิหร่านกลับมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยมากขึ้น ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 พร้อมสนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน เพื่อผลักดันให้เกิดการแลกเปลี่ยนการเดินทางระหว่างกัน ซึ่งเอกอัครราชทูตอิหร่านฯ พร้อมสนับสนุนให้ชาวอิหร่านกลับมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย ประเทศไทยมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นหลายอย่าง เป็นประเทศที่น่ามาท่องเที่ยว และชาวไทยมีมิตรไมตรี สนุกสนาน ซึ่งตอนนี้ได้มีการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกันมากขึ้นแล้วด้วย 

สำหรับความร่วมมือในกรอบพหุภาคี รองนายกรัฐมนตรีขอบคุณอิหร่านที่สนับสนุนไทยในเวทีพหุภาคีด้วยดีเสมอมา พร้อมขอให้อิหร่านสนับสนุนไทยในการเป็นเจ้าภาพงานภูเก็ตเอ็กซ์โป 2028 ด้วย