วันที่ 12 ม.ค. 66 มีรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังถังพลาสติก ในพื้นที่ ม.2 ต.ห้วยแห้ง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี สร้างความเสียหายมากกว่า 50 ล้านบาทเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

ต่อมาในข่วงบ่ายเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสระบุรี ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่โกดังที่เกิดเหตุ ของ หจก. ช.โชควิวัฒน์ ซึ่งภายในโกดังมีคอกเหล็กที่สำหรับใส่ถังพลาสติก 1,000 ลิตร วางเรียงรายกันอยู่เต็มพื้นที่โดยรอบของโกดังพร้อมด้วยถังพลาสติก 1,000 ลิตร สีขาว อีกจำนวนมาก เศษซากโกดังที่พังลงมา รวมไปถึงซากของ รถฮีโน่ 12 ล้อ 1 คัน รถ6ล้อ 1 คัน รถยกโฟคลิฟอีก 3 คัน ที่คาดว่าอยู่ภายใต้ซากโกดังที่พังลงมา

โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบด้านในโกดังได้ เนื่องจากเกรงว่าเศษซากที่กองเรียงรายอยู่จะพังลงมา เพราะคอกเหล็กทั้งหมด โดนความร้อนทำให้คุณภาพเหล็กทั้งหมดลดลง  จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย โดยให้ทางเจ้าของโกดังเคลียร์พื้นที่ก่อน แล้วจึงจะเข้ามาตรวจสอบใหม่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ พร้อมทั้งได้นำโดรนขึ้นบินเพื่อสำรวจความเสียหาย และเก็บภาพมุมสูง เพื่อใช้ประกอบคดี

นาย สุรินทร์ โนราช อายุ 57 ปี เจ้าของ หจก. ช.โชควิวัฒน์ จึงสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าได้มีการทำประกัน หรือมีเงินทุนสำรองที่จะดำเนินธุรกิจต่อหรือไม่ นายสุรินทร์ กล่าวว่า มีเพียงประกันโอดีเท่านั้น ซึ่งเราก็ไม่ได้คาดหวังอะไร เพราะเราไม่ได้ทำตามข้อกำหนดของเค้า เงินทุนสำรองก็ไม่มี แต่ดีตรงที่ว่าเราเริ่มต้นมาโดยที่ไม่ได้กู้ยืม หรือเป็นหนี้ใคร แต่ถ้าถามว่าเราคิดหรือรู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “บอกเลยว่า ผมไม่คิด ถ้าคิดแล้วผมก็ต้องเครียด ต้องปวดหัว และอาจไม่ใช่แค่นั้น จึงคิดเพียงว่าเราจะเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง เราต้องสู้ เพื่อผ่านจุดนี้ไปให้ได้”