นายกฯ เปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติปี 2566 ของ ศธ. ภายใต้แนวคิด “Children’s Day เด็กดี วิถีไทย”
14 ม.ค. 2566, 11:57
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ (14 ม.ค. 66) เวลา 08.30 น. ณ เวทีกลาง กระทรวงศึกษาธิการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ภายใต้แนวคิด “Children’s Day เด็กดี วิถีไทย” เพื่อส่งต่อความสุขควบคู่กับการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ และลงมือปฏิบัติผ่านกิจกรรมที่เสริมสร้างเด็กและเยาวชนให้เป็นพลเมืองที่ดี พร้อมเรียนรู้วิถีไทยด้วยความสุข ความสนุกแบบเต็มอิ่ม ตามคำขวัญวันเด็กประจำปี 2566 คือ “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” ที่นายกรัฐมนตรีได้มอบให้เด็กและเยาวชนในปีนี้ โดยมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเด็กและเยาวชน เข้าร่วมงานจำนวนมาก
เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงบริเวณงาน ตัวแทนเด็กและเยาวชนมอบพวงมาลัยให้แด่นายกรัฐมนตรี พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ชมการแสดงวงโยธวาทิต จากโรงเรียนชะอวดวิทยาคาร จังหวัดนครศรีธรรมราช และการแสดงกระบี่กระบองศิลปะการต่อสู้ของไทยซึ่งเป็นอีกหนึ่ง Soft Power ของไทย จากเด็กและเยาวชนด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 68 แล้ว และเป็นโอกาสดีที่ได้มาพบกับลูกหลานไทย “อนาคตของชาติ” ได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างมีความสุขกับเพื่อน ๆ และเป็นกิจกรรมร่วมกันของครอบครัว ทั้งที่นี่และทั่วประเทศ ได้พร้อมใจกันจัดงานขึ้นเพื่อให้ความรู้นอกตำรา นอกห้องเรียน เสริมประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเป็นความทรงจำดี ๆ ความประทับใจในวัยเด็ก ที่ผู้ใหญ่จัดให้ทุกปี
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงคำขวัญวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ที่นายกรัฐมนตรีมอบให้เด็กและเยาวชน คือ “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” มุ่งหมายเพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ตระหนักรู้ถึงบทบาทหน้าที่ของตน รวมทั้งความคาดหวังของสังคมที่มีต่ออนาคตของชาติ รวมไปถึงครู อาจารย์ และผู้ปกครอง ที่มีส่วนสำคัญในการปลูกฝังอุปนิสัย ทัศนคติและปัญญา ให้เป็นเกราะคุ้มกันลูกหลานของเรา ให้รอดพ้นจากสิ่งผิด ความเชื่อผิด ๆ และแนวคิดที่เป็นมลพิษในสังคมออนไลน์ต่าง ๆ
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงเพลง “หน้าที่ของเด็ก” หรือเพลง “เด็กเอ๋ยเด็กดีต้องมีหน้าที่ 10 อย่างด้วยกัน” ซึ่งแม้จะเป็นเพลงที่แต่งมานานแล้ว แต่เนื้อหาไม่เคยตกยุค และสะท้อนได้ดีถึงนิยามของ เด็กดี...ที่จะเติบใหญ่เป็นพลเมืองดี เช่น มีความขยันหมั่นเพียร ซื่อสัตย์ กตัญญู มัธยัสถ์ และกระตือรือร้นที่จะศึกษาสิ่งใหม่ ๆ นอกจากความคาดหวังให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้รู้จักหน้าที่ของตนอย่างถ่องแท้และยึดมั่นปฏิบัติตามจนเป็นนิสัยแล้ว ยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเด็กทุกคนจะเป็นผู้มีวินัย ทั้งมีวินัยต่อตนเองและมีวินัยต่อสังคม ในการเคารพกฎ ระเบียบ และกติกาของบ้านเมือง ที่เป็นพื้นฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ทั้งนี้ นอกจากหน้าที่และวินัยที่เป็นรากฐานในการดำเนินชีวิตแล้ว เด็กทุกคนยังต้องใฝ่ในความดี คิดดี พูดดี ทำดี โดยการประพฤติตัวเป็นลูกที่ดี ด้วยการเชื่อฟังพ่อแม่ ช่วยทำงานบ้าน เป็นลูกศิษย์ที่ดี ด้วยการเชื่อฟังครูอาจารย์ และตั้งใจศึกษาเล่าเรียน รวมทั้งเป็นเพื่อนที่ดี ด้วยการชักชวนกันทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและสังคม ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมในที่สุด รวมไปถึงขอให้ครู อาจารย์ และทุกฝ่ายช่วยกันดูแลไม่ให้เกิดการบูลลี่ในโรงเรียนและสถานศึกษาขึ้น ขอให้ทุกคนอยู่ร่วมกันด้วยความรักความสามัคคี ทำในสิ่งที่ดีและถูกต้องเพื่อให้สังคมและประเทศเกิดความสงบสุข
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานและองค์กรภาครัฐและเอกชน ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความสุขให้แก่เด็กและเยาวชนในทั้งในบริเวณงาน และพื้นที่จัดงานวันเด็กอื่น ๆ ทั่วประเทศ และขอเด็กและเยาวชนทุกคน ประสบแต่ความสุข มีสุขภาพสมบูรณแข็งแรง เป็นผู้มีสติปัญญา เพื่อให้เป็นกำลังของชาติในอนาคตต่อไป
จากนั้นนายกรัฐมนตรีทำพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 อย่างเป็นทางการ โดยการต่อจิกซอว์สัญลักษณ์วันเด็กแห่งชาติลงบนแท่นพิธีเปิด ก่อนเดินทักทายเด็กและเยาวชน รวมทั้งได้เยี่ยมชมบูธนิทรรศการของกระทรวงศึกษาธิการและภาคเอกชนที่นำมาแสดงไว้ด้วยความสนใจ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความสนุกสนานของเด็กและเยาวชนที่มาเข้าร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติในวันนี้
สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงานแบ่งเป็น 3 โซน ประกอบด้วย (1) โซน : ดินแดนมหาสนุก…ความสุขวิถีไทย (ภายในกระทรวงศึกษาธิการ) เป็นโซนกิจกรรมที่แสดงถึงความเฉลียวฉลาดของเด็กไทยยุคใหม่ที่มีความรัก ความสามัคคี รู้จักหน้าที่ของตนเอง และปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสังคมได้อย่างถูกต้อง พร้อมทั้งเรื่องราวของวิถีไทยเพื่อให้เกิดการเรียนรู้เรื่อง Soft Power ของชาติ และเป็นเวทีหลักในพิธีเปิดงานถ่ายทอดสดและกิจกรรมการแสดงต่าง ๆ (2) โซน : แอดเวนเจอร์หลากมิติ…พิชิตภูผา (บริเวณถนนราชดำเนินนอก) เป็นโซนกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความสนุกแบบลุ้นระทึก การได้ใช้สติและกำลังแขนขาเพื่อการเล่นกิจกรรม พร้อมการส่งเสริมให้เด็กรู้จักการใช้ความสามารถและการช่วยเหลือเพื่อนโดยการพิชิตผ่านด่านกิจกรรม และ (3) โซน : โลกมหัศจรรย์…สารพันแฟนตาซี (บริเวณถนนลูกหลวง) เป็นโซนกิจกรรมที่ให้เด็กและเยาวชนได้เห็นถึงความแปลกใหม่ ตื่นตาตื่นใจกับความมหัศจรรย์และสีสันสดใสต่าง ๆ และเป็นเวทีรองเพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมการแสดงของหน่วยงานต่าง ๆ
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมไฮไลท์ “ตามรอย…เสนาบดีแห่งวังจันทรเกษม” ในการเยี่ยมชมวังจันทรเกษมและพิพิธภัณฑ์การศึกษาไทย เปิดให้เด็ก ๆ และผู้ปกครองได้เข้าชมประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมเก่าแก่ ภายในพิพิธภัณฑ์การศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ “ตามรอย…เสนาบดีแห่งวังจันทรเกษม” ถือเป็นความพิเศษอย่างหนึ่ง เพราะอาคารราชวัลลภ จะเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชมเพียงปีละครั้งเท่านั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมวอล์คแรลลี่ 5 จุดสำคัญ ภายในกระทรวงศึกษาธิการ เล่นแลกรับของรางวัล ทั้ง 3 โซน ฟรีตลอดทั้งวัน รวมทั้งการแสดงบนเวทีกลางอีกมากมาย ทั้งการแสดงทางวัฒนธรรม มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง มิย่า ทองเจือ และแชมป์มวยระดับโลกพี่บัวขาว บัญชาเมฆ และกิจกรรมการประกวด หนูน้อยแห่งวังจันทรเกษม ตอน ผ้าไทยใส่ให้สนุก เพื่อส่งเสริมสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้วยการให้ผู้เข้าประกวดแต่งกายด้วยชุดผ้าไทย โดยผู้เข้าประกวดต้องมีอายุระหว่าง 6 ปี ถึง 12 ปี เพื่อชิงทุนการศึกษามูลค่ากว่า 3,000 บาท และถ้วยรางวัลจากกระรวงศึกษาธิการด้วย