คืบหน้า ! ตั้งคณะกรรมการสอบ เหตุเรือบรรทุกน้ำมันระเบิดในอู่ซ่อมเรือ เสียชีวิตเพิ่ม
18 ม.ค. 2566, 09:02
หลังเกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำมันระเบิดในอู่ซ่อมเรือที่สมุทรสงคราม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม สั่งการให้เร่งตรวจสอบ แก้ไข และช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเหตุการณ์เพลิงไหม้ เรือสมูธซี 22 บริเวณอู่เรือบริษัท รวมมิตรด็อคยาร์ด จำกัด จ.สมุทรสงคราม ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3 ราย บาดเจ็บ 4 คน
นอกจากนี้กรมเจ้าท่าได้ตรวจสอบมาตรการเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตอู่ต่อเรือและการกำกับดูแลอู่ต่อเรือที่มีอยู่ในปัจจุบันกับอำนาจหน้าที่ทางกฎหมายว่ามีเพียงพอหรือไม่ เพื่ออุดช่องโหว่แก้ไขสถานการณ์ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ในอนาคต
ส่วนมูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ รอประเมินความเสียหายจากตัวเรือ และที่อยู่อาศัยของประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เพราะจากการตรวจสอบเบื้องต้นมีบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับผลกระทบด้วย เช่น กระจกแตก
สำหรับประชาชนที่ได้รับความเสียหาย กรมเจ้าท่าร่วมกับ จ.สมุทรสงคราม บริษัทอู่ต่อเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องทุกข์จากผู้ที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ เพื่อนำมาประเมินความเสียหายและดำเนินการเยียวยาตามขั้นตอนที่ได้รับต่อไป รวมทั้งกรณีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจะประสานบริษัทประกันภัยเข้ามาเยียวยาด้วยเช่นกัน
ด้านนายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์เพลิงไหม้ดังกล่าว พบว่า เรือสมูธซี 22 ประเภท เรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต หมายเลขทะเบียนเรือ 620000791 ขนาด 2,998 ตันกรอส ใบอนุญาตใช้เรือตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.65 หมดอายุวันที่ 30 พ.ค.66 เกิดเหตุเพลิงไหม้ขณะจอดอยู่บริเวณอู่เรือบริษัท รวมมิตรด็อคยาร์ด จำกัด ทะเบียนเลขที่ 61132750004 เบื้องต้นพบว่าไม่มีน้ำมันในระวางสินค้า เรือมีประกันภัย H&M คุ้มครองถึงวันที่ 26 มี.ค.66 วงเงิน 60 ล้านบาท และประกันภัย P&I คุ้มครองถึงวันที่ 20 ก.พ.66 วงเงิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีคนประจำเรือ 16 คน ได้รับบาดเจ็บ 10 คน ส่งโรงพยาบาล 4 คน แรงระเบิดทำให้บ้านที่อยู่ใกล้เคียงโดนแรงอัดได้รับความเสียหาย และยังมีเสียงดังไกลไปรัศมีหลายสิบกิโลเมตร
นอกจากนี้ได้สั่งการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 ออกคำสั่งปิดอู่เรือที่เกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบใบอนุญาตอู่เรือทั้งหมด หากพบไม่มีใบอนุญาตถูกต้อง ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาด พร้อมสั่งการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ และมาตรการป้องกันอย่างเร่งด่วนต่อไป
ก่อนหน้านี้ นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามระบุว่า ผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า 4 ราย ระดับสีเขียวทั้งหมด มีผู้สูญหาย 7 ราย กำลังค้นหาทั้งภายนอกและภายในเรือ โดยตั้งศูนย์ช่วยเหลือที่วัดปากสมุทร ต.แหลมใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม สันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากการซ่อมหน้าเรือที่มีการอ๊อกเหล็กเชื่อมเหล็ก ซึ่งมีน้ำมันตกค้างอยู่ แล้วเกิดการปะทุจากการเชื่อมเหล็ก จึงเกิดการระเบิดขึ้น ณ จุดเกิดเหตุมีผู้ปฏิบัติงาน 10 คน มีผู้ปฏิบัติงานบนฝั่ง 30 คน