27 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานความคืบหน้า กรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลชีวิตสุดรันทด ของ นักเรียนหญิงเรียนดี ยอดกตัญญู คือ น้องฟ้า เด็กหญิง หนึ่งฤทัย แซ่ลิ้ม อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 บ้านนายอ หมู่ 6 ต.นางาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม ปัจจุบันกำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านนายอ ซึ่งประสบปัญหาทางสังคม พ่อแม่ แยกทางกัน แต่ต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิต ดูแลพ่อ คือ นายหน่าย แซ่ลิ้ม อายุ 60 ปี ที่เจ็บป่วยเป็นมะเร็งโพรงจมูก และมีปัญหาทางหูไม่ได้ยิน ส่งผลกระทบต่อรายได้ ในชีวิตประจำวัน ไม่มีเงินไปเรียนหนังสือ ต้องอาศัยเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือดูแล เนื่องจากพ่อเสาหลักที่หาเงินเลี้ยงครอบครัว ป่วยช่วงต้นปีที่ผ่านมา ปกติเคยทำงานรับจ้าง แต่ไม่สามารถทำงานได้ และต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาล โดยทางหน่วยงานภาครัฐ ได้ดูแลตามสิทธิ์ การรักษา แต่ไม่เพียงพอ กระทบต่อ น้องฟ้า ที่กำลังเรียนหนังสือ และกำลังจะศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทำให้ชาวบ้าน รวมถึงครู อาจารย์ ที่ดูแล พยายามหาทางช่วยเหลือ และมีการนำข้อมูลไปเผยแพร่ผ่านโซเชียล เพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ

ล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงสภาพความเป็นอยู่ โดยมี นายชาลี ภูสวัสดิ์ อายุ 56 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนายอ ได้พาลงพื้นที่ เข้าไปดูสภาพความเป็นอยู่ ของครอบครัวน้องฟ้า พบว่า อาศัยอยู่ในบ้านปูนชั้นเดียว ที่ชาวบ้าน ช่วยกันสร้างขึ้น พอได้อยู่อาศัย ตามสภาพ ฝาผนังทำด้วยสังกะสีและมีสภาพเก่าไม่มั่นคงแข็งแรง ส่วนที่ดินได้มีญาติพี่น้อง ให้สร้างบ้านที่พักพอได้อาศัย แต่ไม่มีที่ดิน รวมถึงที่นาเป็นของตนเอง ซึ่งในบ้าน น้องฟ้า ได้อาศัยอยู่กับพ่อเพียง 2 คน ตามสภาพ ส่วนพ่อหลังไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม ปัจจุบันได้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน ร่างกายยังไม่ทรุด สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ไม่สามารถทำงานหนักได้

ด้าน นายชาลี ภูสวัสดิ์ อายุ 56 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนายอ เปิดเผยว่า สำหรับน้องฟ้า เด็กหญิง หนึ่งฤทัย แซ่ลิ้ม อายุ 14 ปี ที่ผ่านมาถือว่าครอบครัวยากจน แต่เป็นเด็กดี กตัญญู ช่วยพ่อแม่ทำงาน และมีความประพฤติเรียบร้อย เก่งเรื่องกิจกรรมในโรงเรียน เป็นประธานสภากิจกรรมนักเรียนของโรงเรียน ครอบครัว มีพ่อน้อง รวม 3 คน พี่สาวคนโต อายุ 31 ปี ไปมีครอบครัวดิ้นรนทำงานต่างจังหวัด ส่วนคนที่ 2 เป็นพี่ชาย เสียชีวิตเมื่อ 4-5 ปี ที่แล้ว จากอุบัติเหตุ เมื่ออายุ 23 ปี  ส่วนน้องฟ้า เป็นคนสุดท้อง โดยความเป็นอยู่จะมีพ่อที่เป็นเสาหลักในการทำงานรับจ้างทั่วไป ดูแลครอบครัว และในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา มีอาการป่วยมะเร็ง และป่วยทางหูไม่ได้ยิน ทำให้ขาดเสาหลัก เพราะแม่ คือ นางลำเงิน ศรีโยลา อายุ 51 ปี แยกทางกับพ่อ ได้แยกทางกันกับพ่อเมื่อต้นปี ไปมีครอบครัวใหม่ ทำให้ น้องฟ้า ต้องดิ้นรน ช่วยเหลือตนเอง และต้องดูแลพ่อที่เจ็บป่วย ถึงแม้จะมีภาครัฐ ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชนช่วยเหลือ รวมถึงทางโรงเรียน แต่ไม่เพียงพอ ทางชาวบ้าน และครู จึงพยายามหาทางช่วยเหลือมาตลอด และมีการเผยแพร่ทางโซเชียล เพราะห่วงอนาคตน้องฟ้า อยากให้เรียนต่อ มีงานทำ และอยากให้ผู้ใจบุญหาทางรักษาพ่อที่ป่วย เบื้องต้นได้มีการเปิดบัญชี ตั้งกองทุนรับบริจาคช่วยเหลือ มีผู้ใจบุญเข้ามาดูแลช่วยเหลือต่อเนื่อง รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ทางจังหวัดทุกหน่วยงานเข้ามาดูแล  หากผู้ใจบุญต้องการบริจาคช่วยเหลือสามารถบริจาคช่วยเหลือได้ที่ บัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขา อ.เรณูนคร ชื่อ เด็กหญิงหนึ่งฤทัย แซ่ซิ้ม บัญชีเลขที่ 435-0-439-72-2 ซึ่งมีคณะกรรมการดูแล เป็นระบบ เพื่อจะได้นำมาดูแลช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป

 

 

ทั้งนี้ทางด้าน นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวได้ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ตรวจสอบ ดูแล ให้ความช่วยเหลือทุกด้าน ซึ่งที่ผ่านมา ยืนยันว่า ทางหน่วยงานรัฐ อำเภอ ผู้นำชุมชน องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ได้มีการดูแลเบื้องต้นตามสิทธิ์มาตลอด รวมถึงการรักษาพยาบาลได้มีการรับบริการ ในสถานพยาบาลรัฐ 30 บาทรักษาทุกโรค รวมถึงการศึกษา พบว่าทางโรงเรียนได้ดูแล เบื้องต้น ซึ่งหลังจากนี้ หลังพบว่า ยังประสบปัญหาความเป็นอยู่ทางจังหวัดนคพรนม ร่วมกับทุกภาคส่วน จะได้เข้าไปดูแล ให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึง เรื่องการศึกษาของน้อง โดยที่ผ่านมา ขอนำเรียนว่า ทางจังหวัดได้ มีนโยบายในการประสานหน่วยงาน เกี่ยวข้อง ทุกอำเภอ เร่งสำรวจ สภาพความเป็นอยู่ ของชาวบ้าน ทุกชุมชน รวมถึงผู้ประสบปัญหาทางสังคม ซึ่งได้มีการดูแลช่วยเหลือ มาตลอด ทั้งมอบเงินสวัสดิการทางสังคม รวมถึงการสร้างที่อยู่อาศัย แต่อาจจะมีบางราย ที่ยังอยู่ระหว่างการสำรวจช่วยเหลือ และรอขั้นตอนการตรวจสอบ ตามระเบียบทางราชการ ขอฝากไปยังประชาชน ผู้นำชุมชนทุกพื้นที่หากประสบปัญหาทางสังคม สามารถติดต่อรับการช่วยเหลือได้ ทุกอำเภอ ซึ่งมีหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบ สำหรับการช่วยเหลือผู้ใจบุญถือว่าเป็นอีกช่องทาง ที่คนไทยจะได้ ช่วยเหลือร่วมกัน นอกเหนือจากภาครัฐ สำหรับน้องฟ้า ส่วนหนึ่ง ทางนายกตู่ ได้มีความห่วงใย และมอบหมายให้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าไปดูแล ช่วยเหลือต่อเนื่อง