ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่า รมช.เกษตรฯลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยอำเภอเสลภูมิ เผยงานเร่งด่วนที่ต้องทำคือให้มีการเร่งขนทรายออกจากนาให้เร็วที่สุดหลังจากนั้นกระทรวงเกษตรฯจะเข้ามาปฏิบัติการในการปรับคุณภาพของดินพร้อมที่จะลงข้าวได้เลยหรือแจกเมล็ดพันธุ์พืชอายุสั้นใช้น้ำน้อยและเก็บเกี่ยวได้เร็วทดแทนความเสียหายของไร่นาพี่น้องเกษตรกร

 

วันที่ 27 กันยายน 2562 เวลา 13.10 น. ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.ธนสาร ธรรมสอน ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิณะโรจน์  ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม นายสถาพร ใจอารีย์ รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน นายอุดม วิภาสไพสิฐ ผู้อำนวยการสำนักวิศวะกรรมเพื่อการพัฒนาที่ดินและคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยบริเวณพนังกั้นน้ำขาด จุดที่ 1 ณ บ้านท่าทางเกวียน ตำบลวังหลวง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จุดที่ 2 ตรวจบริเวณพนังกั้นน้ำขาด ณ บ้านท่าโพธิ์ หมู่ 6 ตำบลวังหลวง อำเภอเสลภูมิ จุดที่ 3 ตรวจบริเวณพนังกั้นน้ำขาด บ้านท่าเยี่ยม หมู่ 5 ตำบลวังหลวง อำเภอเสลภูมิ จุดที่ 4  ประชุมชี้แจงมาตรการในการให้ความช่วยเหลือ ณ ศาลาประชาคมบ้านท่าเยี่ยม ตำบลวังหลวง อำเภอเสสลภูมิ โดยมี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ตัวแทนผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 27 ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมร่วมให้การต้อนรับ 

นายอภัย วุฒิโสภากร นายอำเภอเสลภูมิ รายงานข้อมูลสรุปสถานการณ์น้ำท่วมว่า อำเภอเสลภูมิมีพื้นที่ 18 ตำบล 235 หมู่บ้าน ประชากร 118,860 คน 23,947 ครัวเรือน ประกอบอาชีพหลักเกษตรกรรม พื้นที่การเกษตร 301,130 ไร่  มีแม่น้ำที่สำคัญไหลผ่าน 2 สาย ได้แก่ แม่น้ำยัง แม่น้ำชี ความเสียหายด้านคน มีการเสียชีวิต 2 ราย ได้ให้การช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ครอบครัวผู้ประสบภัย ครัวเรือนละ 50,000 บาท  ด้านการเกษตร อำเภอเสลภูมิ มี 18 ตำบล 235 หมู่บ้าน เกษตรกรจำนวน 22,158 ครัวเรือน พื้นที่ทำการเกษตร 301,130 ไร่  ประสบภัยด้านพืช เกษตรกรและพื้นที่น้ำท่วม 14,047 ครัวเรือน นาช้าว 159,791 ไร่ จำนวน 17 ตำบล เกษตรกร 9,813 ราย พื้นที่เสียหาย นาข้าว 117,778 ไร่ พืชไร่ 709 ไร่  พืชอื่นๆ 51.25 ไร่ รวมทั้งสิ้น 118,538.25 ไร่ วงเงินที่ขอรับการช่วยเหลือ 131,987,458.50 บาท  เกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรณีพื้นที่ทำการเพาะปลูกได้ถูกทรายทับถมจนไม่สามารถใช้เพาะปลูกได้ จำนวน 4 ตำบล 13 หมู่บ้าน เกษตรกร 86 ราย พื้นที่เสียหาย 698.1 ไร่ พื้นที่ขอรับความช่วยเหลือตามระเบียบฯ จำนวน 410.3 ไร่ ประสบภัยด้านประมง เกษตรกร 700 ครัวเรือน บ่อปลา 950 ไร่ ประสบภัยด้านปศุสัตว์ เกษตรกร 870 ครัวเรือน โค 1,853 ตัว กระบือ 1,097 ตัว  บ้านเรือนราษฏรได้รับความเสียหายจากอุทกภัย 12 ตำบล 85 หมู่บ้าน 3,990 หลังคาเรือน

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวช่วงหนึ่งว่า ตนเองในนามตัวแทนรัฐบาลโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้รับทราบปัญหาและมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมเป็นอย่างมาก และมาวันนี้เพื่อให้กำลังใจอย่าท้อแท้ ขอให้ทุกคนสู้กับภัยธรรมชาติครั้งนี้ ซึ่งรัฐบาล จะเร่งให้การช่วยเหลือเยียวยาหลังน้ำลดทันทีตามมาตรฐานการชดเชยที่ทางการมีอยู่แล้ว ทั้งนา ไร่ และสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ โดยทางเกษตรจังหวัด นายอำเภอและหน่วยงานที่รับผิดชอบจะเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อสรุปตามมาตรการเยียวยาต่อไป

ร้อยเอกธรรมนัส ยังกล่าวต่อด้วยว่า งานเร่งด่วนในขณะนี้คือท่านนายกฯได้สั่งการมาชัดเจนว่าจะต้องเอาทรายออกจากที่ดินชาวบ้านก่อนโดยเฉพาะที่ดินแปลงไร่แปลงนาแบบนี้ ซึ่งบริเวณของตำบลวังหลวงประมาณ 400 กว่าไร่ ปริมาณทรายประมาณ 7 แสนกว่าคิว ซึ่งก็ถือว่าเป็นงานใหญ่ ต้านนายกรัฐมนตรีได้สั่งการกำชับให้ มท.1 ท่านอนุพงษ์ฯกำกับดูแลและสั่งการว่าให้มีการขนทรายออกให้เร็วที่สุดหลังจากนั้นกระรวงเกษตรฯจะเข้ามาปฏิบัติการในการปรับคุณภาพของดินพร้อมที่จะลงข้าวได้เลยหรือพืชทดแทนที่สามารถปลูกในระยะสั้นใช้น้ำน้อยและเก็บเกี่ยวได้เร็วทดแทนความเสียหายของไร่นาของพี่น้องเกษตรกรได้ทุกที่

ส่วนการแก้ปัญหาขนทรายออกจากแปลงนาเพื่อความรวดเร็วเกษตรกรสามารถทำเองได้หรือไม่โดยไม่ต้องรอภาครัฐ  ร้อยเอกธรรมนัส บอกว่า อันนั้นเป็นทางเลือก เรามีทางเลือกว่าเรามีการปฏิบัติการระหว่างกองทัพกับกระทรวงต่างๆอยู่แล้วถ้าพี่น้องเกษตรกรบางแปลงเขาสามารถทำเขาเองได้เขาชำนาญกับพื้นที่ก็สามารถจะเลือกปฏิบัติได้เช่นกันซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดจะกำกับดูแลในเรื่องนี้

สำหรับเรื่องเมล็ดพันธุ์จะเยียวยาหลงน้ำลด กระทรวงฯจะได้นำเรื่องของบประมาณเข้า ครม.ในวันอังคารนี้ในการจัดหาเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อมาแจกจ่ายให้กับพี่น้องเกษตรกร เท่าที่เรามีในสต็อกประมาณหมื่นตันไม่เพียงพอ เราขออนุมัติวงเงินทั้งหมด 7 หมื่นตัน ซื้อกับสหกรณ์ต่างๆในประเทศด้วย หากไม่เพียงพอต้องจัดซื้อเพิ่ม เพราะฉะนั้นในวันอังคารหน้าท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯจะนำแผนนี้เพื่อขออนุมัติงบประมาณจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ ซึ่งจะต้องจัดให้เพียงพอกับพี่น้องเกษตรกรอยู่แล้ว

นายสมบัติ ชินคำ อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้านท่าทางเกวียน หมู่ 4 ตำบลวังหลวง เปิดเผยว่า ตอนนี้อยู่พื้นที่เสียหายของพี่น้องประชาชนหลังน้ำลดมีสภาพดินทรายเป็นห้วยเป็นหนองพี่น้องไม่สามารถจำการเกษตรได้ ข้าวเสียหายหมด วันนี้เดือดร้อนหนัก สิ่งที่ต้องการยามนี้คือพันธุ์พืชที่ปลูกหน้าแล้งอายุสั้น เช่น ถั่วลิสง ข้าวโพด มันเทศ มันสำปะหลัง  ถ้าพันธุ์ข้าวจะปลูกไม่ได้เพราะพื้นที่เป็นทรายเสียหายมาก น้ำไม่มีเป็นโคกเป็นห้วยเป็นหนองปลูกข้าวไม่ได้นอกจากพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อยเท่านั้นที่สามรารถช่วยพี่น้องเกษตรกรได้ในหน้าแล้ง