หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ผู้ประกอบการค้าชายแดนทั้งชาวไทยและเมียนมา บริเวณด่านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เร่งขนส่งสินค้าข้ามแดน หลังจากไม่มั่นใจสถานการณ์ในพื้นที่หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ทหารกะเหรียง ได้ทำการวางเพลิงเผาสถานที่ราชการ 5 แห่ง ในเมืองพยาตองซู ก่อนจะมีการยิงปะทะกันด้วยปืน เอ็ม 79 และปืนนานาชนิด โดยสินค้าในวันนี้ส่วนใหญ่เป็นยางพารา และสินค้าอุปโภคบริโภคที่นำเข้ามาจากเมียนมา ส่วนสินค้าที่ส่งออกเป็นเบียร์ และเครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภค

 

วันนี้ 24 ม.ค. 2566 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ขณะที่ พันเอก ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กล่าวถึงสถานการณ์ เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.50 น. ทราบว่า กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมาได้ก่อเหตุความไม่สงบโดยมีเป้าหมายในการก่อวินาศกรรมด้วยการระเบิดและเผาทำลาย บริเวณสถานที่ราชการของเมียนมา ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายจำนวนหลายแห่ง ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 2 กม. สำหรับในส่วนของทหารเมียนมา พัน.ร.284 ได้ทำการยิงป้องกันฐานปฏิบัติการและตอบโต้ กลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นใช้เวลาประมาณ 30 นาที ฝ่ายเมียนมาจึงควบคุมสถานการณ์ได้ เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและชีวิตแต่อย่างใด และสถานการณ์ยังไม่ส่งผลกระทบต่อแนวชายแดนไทยแต่อย่างใด  ปัจจุบันเช้าวันนี้เหตุการณ์ทั่วไปปกติ ประชาชนฝั่งไทยและเมียนมายังคงใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ

 

ถามว่าหน่วยได้มีการเข้าตรวจสอบพื้นที่พบอะไรบ้าง และหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไร อย่างไรบ้าง พันเอก ธัชเดช อาบัวรัตน์ กล่าวว่าเนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในฝั่งประเทศเมียนมา การตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเป็นอำนาจหน้าที่ของ จนท.ฝ่ายเมียนมา สำหรับฝ่ายเรา หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ผบ.กกล.สุรสีห์ และ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า ได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และวางกำลังทหารในพื้นที่ล่อแหลมต่างๆ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา รวมทั้งบูรณาการร่วมกับ ร้อย.ตชด.134,จนท.ตร.สภ.สังขละบุรี ,จนท.อส.และฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี ดูแลความสงบเรียบร้อยในบริเวณโดยรอบ บ.พระเจดีย์สามองค์ ตลอดทั้งคืน การดำเนินการต่อไป หน่วยเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเตรียมการปฏิบัติตามแผนรองรับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา แต่ปัจจุบันยังไม่ปรากฏผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว

 

ซึ่งทางหน่วยเหนือโดยทางแม่ทัพภาคที่ 1  ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ และ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ได้เน้นย้ำให้ดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นความเร่งด่วนลำดับแรก โดยให้บูรณาการร่วมกับจนท.ตร.และจนท.ฝ่ายปกครอง ดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ จัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัย และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมการปฏิบัติตามแผนรองรับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา เพื่อช่วยเหลือตามหลักมนุษยชน แต่ปัจจุบันยังไม่ปรากฏผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว

 

และจากการประสานงานกับฝ่ายเมียนมา ทราบว่าในห้วงที่ผ่านมา กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา เคยก่อเหตุเช่นนี้มาแล้วหลายครั้งในลักษณะการก่อวินาศกรรม ก่อกวน ข่มขู่ แต่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่แห่ง แต่เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นการก่อเหตุพร้อมกันจำนวนหลายจุด ทำให้เกิดความสับสน และมีเพลิงไหม้ลุกลาม

ล่าสุดขณะนี้ชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ใกล้ชายแดนเริ่มอพยพเข้ามาตามช่องทางต่างๆ หลังจากมีข่าวลือว่าฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทหารเมียนมา จะเปิดศึกโจมตีทหารเมียนมาในค่ำคืนนี้