แม่ช็อกเด็กสาว ป.1 ถูกรุ่นพี่ป.3 ขืนใจ ร้องขอความเป็นธรรม มูลนิธิปวีณา
31 ม.ค. 2566, 18:09
วันนี้( 31 ม.ค.66) ล่าสุด ผู้สื่อข่าว เดินทางไปยัง สภ.บัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าว พบกับ พ.ต.อ. เฉลิมศักดิ์ ชัยณรงค์ศักดิ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรบัวเชด โดย พ.ต.อ. เฉลิมศักดิ์ ชัยณรงค์ศักดิ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรบัวเชด กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้ทางตำรวจได้มีการเรียกสอบถามเบื้องต้นแล้ว พร้อมทั้งนำตัวน้องผู้หญิงผู้เสียายไปให้หมอตรวจร่างกายแล้ว ที่โรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงไปดูบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของเด็กผู้ชายอายุ9 ขวบ โดยบ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของเด็กผู้ชายและอยู่ใกล้กันกับบ้านเด็กหญิงผู้เสียหาย ในวันเกิดเหตุวันที่ 21 มกราคม 2566ที่ผ่านมา แม่ของเด็กหญิงออกไปรับจ้างกรีดยาง ไม่ได้เอาลูกไปด้วย และปล่อยให้วิ่งเล่นอยู่กับเพื่อนๆ พร้อมเด็กชายที่ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุ หลังจากนั้นแม่ก็ยังไม่ได้รับทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว มารับทราบอีกทีเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 ซึ่งมีอดีตผู้ใหญ่บ้านมาบอกว่ารู้สาวตนถูกกระทำ แม่จึงได้เรียกลูกสาวมาสอบถาม จึงได้รู้ว่าถูกเด็กชายอายุ 9 ขวบ กระทำชำเรา จากนั้นจึงพาลูกมาเข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.บัวเชด ในวันที่ 28 มกราคม 2566 ซึ่งงทางเจ้าหน้าได้ทำการสอบปากคำผู้เป็นแม่และนำตัวเด็กหญิงส่งตรวจร่างกายที่ รพ.บัวเชด จากนั้นจะได้นัดน้องไปสอบปากคำที่สำนักงานอัยการจังหวัด พร้อมทีมสหวิชชาชีพ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาและผู้ถูกกระทำเป็นเด็ก ในวันจันทร์นี้ แต่ปรากฏว่าแม่และน้องผู้หญิงได้เดินทางไปยังมูลนิธิปวีณา ขณะนี้ก็ยังไม่กลับ ทราบว่าจะเดินทางกลับมาในวันพฤหัสนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานแล้ว หากกลับมาก็จะรับตัวไปสอบปากคำทันที่ที่สำนักงานอัยการจังหวัด
ส่วนผลการตรวจร่างกายของเด็กหญิง ทางแพทย์ก็ระบุว่าพบเนื้อเยื่อพรมจรรย์ฉีกในเบื้องต้น และต้องรอผลตรวจยืนยันดีเอ็นเอ หากพบผลดีเอ็นเอของเด็กผู้ชายในตัวน้องผู้หญิง ก็น่าจะยืนยันว่าใช่ มีความน่าเชื่อถือ ในจอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับเด็กชายที่ถูกกล่าวหา จนกว่าจะมีการสอบปากคำของเด็กทั้ง 2 คนทั้งเด็กผู้หญิงและผู้ชาย ร่วมกับทีมสหวิชาชีพที่สำนักงานอัยการจังหวัดก่อน จึงจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา เป็นเรื่องระเอียดอ่อน เพราะที่ผู้ถูกกระทำการผู้ถูกกล่าวหาเป็นเด็กทั้งคู่ ซีงตำรวจจะทำงานอย่างเต็มที่ ต่อกรณีที่มีข่าวว่ามีการกระชากกันที่โรงเรียนนั้น ยังไม่ทราบ รวมไปถึงการนขมขู่ของเด็กชายนั้น ยังไม่ทราบและไม่น่าจะมี เพราะเหตุเกิดที่ห้องน้ำในบ้านของเด็กชาย
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของเด็กผู้ชาย ที่บ้านตะเปียงคล็อง ต.จรัส อ.บัวเชด บ้าน ของนางสุวรรณี ศรีวงศ์ อายุ 54 ปี ยายของเด็กชายสาม นามสมมุติ เลขที่ 120 ม.7 บ้านตะเปียงคล็อง ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุ โดยนางสุวรรณี ได้พาไปดูที่ห้องน้ำ พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ปกติพวกเด็กๆ 4-5 จะพากันเล่นกันอยู่แถวบริเวณรอบบ้านและในบ้านกันเป็นประจำ ส่วนมากก็จะเป็นหลานๆของพวกตน แต่ก็จะมีเด็กผู้หญิงที่มีเรื่องกันมาเล่นด้วย ก่อนเกิดเรื่องสองสามวัน ปกติบ้านเขาจะอยู่อีกฟากหนึ่งของถนน และเพิ่งย้ายมาอยู่ซึ่งเป็นบ้านของอดีดผู้ใหญ่ และอยู่ไม่ห่างจากบ้านตนมากนัก มาอยู่ได้ประมาณ 3 วัน จากการสอบถามหลานชาย ก็บอกว่าไม่ได้ทำอะไร และถามเด็กทีเล่นด้วยกันก็บอกว่าเด็กชายสาม ไม่ได้ทำอะไรเช่นกัน ตอนที่ไปคุยกันกับผู้ปกครองที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน เด็กก็บอกว่าเด็กผู้หญิงเป็นคนให้ถอดกางเกง และลูกของน้องสาวก็เข้ามาเห็นและยืนยันว่าเด็กชายสาม ไม่ได้ถอดกางเกง ประมาณว่าเด็กผู้หญิงเป็นคนให้เด็กผู้ชายถอดเสียเอง ยายของเด็กชายสามกล่าว
จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้าน ของทนง รักกระโทก อดีตผู้ใหญ่บ้านตะเปียงคล็อง ซึ่งเป็นบ้านหลังที่เด็กผู้หญิงผู้เสียหาย พักอาศัยอยู่ นายทนง กล่าวว่า ตนเองไปถามแม่ของเด็กผู้หญิง ว่าทราบเรื่องที่เด็กชายมากระทำชำเราลูกสาวตนเองหรือยัง ชาวบ้านเขาคุยกันมาก แม่เด็กหญิงบอกว่าไม่ทราบ จากนั้นเรียกเด็กมาสอบถามเด็กเล่าเรื่องให้ฟังจากนั้น ถูกเด็กผู้ชายกระทำชำเรา ก็พากันไปคุยกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ตกลงกันไม่ได้จึงแจ้งขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณา และแจ้งความที่ สภ.บัวเชด เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับเด็กหญิงผู้เสียหาย
นายสาน ซอมสุข ผู้ใหญ่บ้านตะเปียงคล็อง ท้องที่เกิดเหตุเล่าว่า หลังรับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ได้เรียกผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย มาพูดคุยหารือกัน แต่ไม่สามารถพูดคุยได้ เพราะผู้ถูกกระทำและผู้ถูกกล่าวหาเป็นเด็ก ก็เป็นการสอบถามกันคร่าวๆเท่านั้น โดยถามน้องอีกคนที่อยู่ด้วย ก็บอกว่าเพียงแต่เห็นน้องผู้หญิงถอดกางเกงและให้เด็กผู้ชายถอดตาม แต่ยังไม่ได้ถอดก็มีคนเห็นก่อน ซึ่งจะให้ตนตัดสินใจให้ว่าใครถูกผิดนั้นทำไม่ได้ ซึ่งจากการพูดคุยของผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย โดยฝ่ายเด็กหญิงเรียกเงินค่าชดเชยไป 2 หมื่นบาท ซึ่งทางผู้ปกครองเด็กชายไม่มี จึงไปสามารถตกลงกันได้ ทางฝ่ายเด็กหญิงจึงได้พากันไปแจ้งความและเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณา