ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณเวทีกลางในอาคารแสดงสินค้าชั่วคราว สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม ในนามพาณิชย์จังหวัดฯ โดย นายคำนวณ สุวรรณดี จัดงาน Expo Sanook Farmer Market เป็นการรวบรวมมหกรรมสินค้าทางการเกษตรปลอดภัย และของดีกลุ่มจังหวัดสนุก ประกอบด้วย สกลนคร,นครพนม,และมุกดาหาร มาไว้ในที่เดียวกัน โดยมี นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รอง ผวจ.นครพนม นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว ปลัดจังหวัดฯ นายรักสกุล สุริโย เกษตรและสหกรณ์จังหวัดฯ นายอเนก รัตน์รองใต้ เกษตรจังหวัดนครพนม พ.ต.อ.ชาตรี ปรีชากุล รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม นายสมนาม เหล่าเกียรติ ประธานหอการค้าฯ นายสุรัตน์ ก้องเกียรติกมล ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์หอการค้าฯนครพนม เป็นเจ้าบ้าน

ขณะเดียวก็มีตัวแทนพันธมิตรกลุ่มจังหวัดสนุก เช่น นายนิยุทธ์ สืบสาย ผอ.กลุ่มส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร นายเกษศิริ สุวพงษ์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจและการตลาด สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร นอกจากนี้ทางฝั่งประเทศลาวได้มอบหมายให้ ท่านทองไซ มังหนอเมก หัวหน้าแผนกอุตสาหกรรมและการค้า แขวงคำม่วน ท่านสมสี สุกสมบูน ประธานสภาอุตสาหกรรมและการค้า แขวงคำม่วน นำผลิตภัณฑ์สินค้าโอด็อป ODOP(หนึ่งอำเภอ หนึ่งผลิตภัณฑ์) มาร่วมงานเพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าชายแดน สานสัมพันธ์สองแผ่นดิน ไทย – ลาว

นายคำนวณ ฯ พาณิชย์จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่าการจัดงานครั้งนี้ เป็นการผนึกกำลังของกลุ่มจังหวัดสนุก เพื่อแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรที่สำคัญของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (ประกอบด้วย จังหวัดนครพนม มุกดาหาร และสกลนคร โดยให้จังหวัดสกลนครเป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด) และประชาสัมพันธ์ศักยภาพสินค้าทางการเกษตรที่สำคัญ ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชน สถาบันเกษตร ให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 มิ.ย.62 รวม 5 วัน

“ภายในงานมีการแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตร มีทั้งสินค้าดีสินค้าเด่นของกลุ่มจังหวัดสนุก จำนวน 100 ราย โดยจังหวัดนครพนมเจ้าภาพมี 51 ราย สกลนคร 29 ราย มุกดาหาร 14 ราย และจากประเทศลาวอีก 6 ราย สินค้าที่สำคัญอาทิ ข้าวอินทรีย์,สับปะรดหวาน อ.ท่าอุเทน,แตงโมไร้เมล็ด อ.ศรีสงคราม,ปลาส้ม,น้ำหมากเม่า,ผ้าย้อมครามของดีจากสกลนคร,ผ้าหมักโคลนโอทอปดังของมุกดาหาร และผลิตภัณฑ์จากกก เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายธุรกิจผลไม้จากจังหวัดจันทบุรี นำ ทุเรียน เงาะ ลองกอง สดๆจากสวนมาบริการให้กับชาวจังหวัดนครพนมได้ลิ้มลอง พร้อมเจรจาจับคู่ธุรกิจ(Business Matching) กับนักธุรกิจกลุ่มจังหวัดสนุกอีกด้วย” นายคำนวณฯ กล่าว

ด้านนางวิไลวรรณฯรอง ผวจ.นครพนม กล่าวเพิ่มเติมว่ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2(สกลนคร,นครพนม,มุกดาหาร) ถือเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญ และมีคุณภาพเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าวหอมมะลิ,ลิ้นจี่นครพนม,สับปะรดท่าอุเทน,โคเนื้อ,ไก่งวง รวมถึงผลิตภัณฑ์ทารงการเกษตรอื่นๆ ได่แก่ ข้าวฮาง,ข้าวกล้อง,จมูกข้าว,น้ำจมูกข้าว,น้ำหมากเม่า,ผ้าย้อมคราม เป็นต้น อีกทั้งเป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญของกลุ่มจังหวัด ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัย GAP และสินค้ามาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และนอกจากนี้ยังมีสินค้าที่เป็นอัตลักษณ์ เอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ซึ่งเป็นสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์(GI) ได้แก่ สับปะรดท่าอุเทน  ลิ้นจี่นครพนม เนื้อโคขุนโพนยางคำ(สกลนคร) ข้าวฮางหอมทองสกลวาปี หมากเม่าสกลนคร ผ้าครามธรรมชาติสกลนคร และผ้าหมักโคลน อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร ซึ่งถือว่ามีความโดดเด่นและคุณภาพเฉพาะตัวที่ผู้บริโภคให้การยอมรับ

     “กลุ่มจังหวัดสนุก(สกลนคร,นครพนม,มุกดาหาร) ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนากลุ่มจังหวัดให้เป็นเมือง”ส่งเสริมการเกษตรด้วยนวัตกรรม ท่งเที่ยว 3 ธรรม เชื่อมโยง 3 ประเทศ มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจสู่อาเซียน” โดยใช้ศักยภาพของกลุ่มจังหวัดผ่านตัวเลข 2-2-2 คือ 2 เขตเศรษฐกิจพิเศษที่(นครพนม มุกดาหาร) 2 สะพานมิตรภาพไทย-ลาว(มุกดาหาร นครพนม) และสองสุดท้ายคือ 2 สนามบิน(สกลนคร นครพนม) เป็นการเพิ่มขีดความสามารถแก่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการขยายตัวด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ให้มีความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน”

     “การสนับสนุนอุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมที่มีความเชื่อมโยงกับการผลิตภาคเกษตรในพื้นที่ ซึ่งเป็นโอกาสในการเชื่อมโยงสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพไปยังประเทศลาว เวียดนามและจีนตอนใต้-ตะวันออก โดยมีจังหวัดนครพนมเป็นจุดยุทธศาสตร์ ในการเป็นศูนย์กลางการค้าชายแดน ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 ที่มีศักยภาพและเป็นประตูเศรษฐกิจ ที่มีระยะทางที่สั้นที่สุดไปสู่จีนตอนใต้ เพียง 831 กม. โดยผ่านถนนหมายเลข R12 ในประเทศลาว และเส้นทาง A1 ในเวียดนามไปสู่จีนตอนใต้” นางวิไลวรรณฯ กล่าว

ซึ่งในพิธีเปิดมีเซอร์ไพรส์เพราะมีดาราสาว “ยุ้ย” จีรนันท์ มะโนแจ่ม แทรกตัวมากับกลุ่มคณะนางรำจากโรงเรียนบ้านคำเตยอุปภัมภ์ ต.คำเตย อ.เมือง จ.นครพนม ถือปุ่มกดมามอบให้กับประธานในพิธี เรียกเสียงฮือฮาจากประชาชนที่มาร่วมงานจำนวนมาก และโดยตลอด 5 วัน มีการแสดงและจำหน่ายสินค้า GI และสินค้าเด่นกลุ่มสนุก พร้อมทำความรู้จักกับพืชพันธุ์ทางการเกษตรนวัตกรรมใหม่ ภายใต้ซุ้มหมู่บ้าน 1 ตำบล 1 นวัตกรรม และการเสวนาวิชาการทางด้านการเกษตร เช่น ข้าวนครพนมจะไปทิศทางใด?,สินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน Modem Trade,ทำความเข้าใจกับสินค้า GI ดีอย่างไร และวิถีเกษตรอินทรีย์ ทำนาน 1 ไร่ ได้ข้าว 2 ตัน โดยวิทยากรที่ประสบความสำเร็จจากการทำเกษตรดังกล่าว