"ชัยวุฒิ" หนุน "บุหรี่ไฟฟ้า" ถูกกฎหมาย เล็งชงเข้านโยบายพรรคพลังประชารัฐ
2 ก.พ. 2566, 16:40
วันนี้ ( 2 ก.พ.66 ) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) เปิดเผยกรณีการขายบุหรี่ไฟฟ้าทั้งออนไลน์ และการวางขายทั่วไป ว่า ต้องใช้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ ในการรวบรวมพยานหลักฐานแล้วก็จับกุมผู้ที่กระทําผิดกฎหมาย แล้วส่งข้อมูลมาทํางานร่วมกับกระทรวง DES ในการขอปิดกั้น ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงฯ ดำเนินการมาโดยตลอดแต่ต้องยอมรับว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นวิถีชีวิตของประชาชนกลุ่มหนึ่ง และในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ยุโรป, อเมริกา หรือแม้แต่ประเทศญี่ปุ่น ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ก็มีหลายประเทศที่ถูกกฎหมาย แต่ประเทศไทย ยังไม่มีกฎหมายรองรับ จึงทำให้เกิดการลักลอบใช้ ลักลอบขาย เกิดช่องทางทําธุรกิจผิดกฎหมาย เกิดส่วย เกิดการเรียกรับผลประโยชน์ และเกิดการขายทั่วไป ไม่ใช่ออนไลน์เพียงอย่างเดียว
สำหรับเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ได้พูดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ว่าตนเห็นด้วยที่ทําให้ถูกกฎหมาย แต่ด้วยอํานาจ หน้าที่ อาจจะทําได้ไม่เต็มที่ แต่ก็จะผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ หากได้เป็นรัฐบาล และมีอํานาจหน้าที่เข้ามาทําต่อ จะขอแก้ปัญหานี้ด้วยการผลักดันให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย เป็นการลดผลกระทบด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชน เพราะเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าสูบแล้วปลอดภัยกว่าสูบบุหรี่จริง ที่สําคัญประเทศที่เจริญแล้ว ประเทศที่พัฒนาแล้วเกือบทุกประเทศได้มีการใช้บุหรี่ไฟฟ้า เพราะฉะนั้นประเทศไทยจึงควรพิจารณาตามความเหมาะสม อย่าฟังเพียงคนบางกลุ่ม
“ส่วนตัวคิดว่า หัวใจสําคัญคือต้องทําเรื่องนี้ให้ถูกกฎหมาย ถ้าคิดว่าเป็นเรื่องของวิถีชีวิตประชาชน เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน เป็นสิ่งที่คนยอมรับได้ ก็ควรจะทําให้ถูกกฎหมาย อนุญาตให้มีการขาย และเก็บภาษีให้ถูกต้อง ซึ่งสามารถนำภาษีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในเรื่องต่างๆ เป็นการลดภาระประชาชน โดยการทำให้ถูกกฎหมาย จะต้องไม่ขัดกับวิถีชีวิตประชาชน ก็จะแก้ปัญหาเรื่องส่วย แก้ปัญหาเรื่องการคอร์รัปชั่น เพราะเราจะเปลี่ยนส่วยเป็นภาษี เอาภาษีมาแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนในเรื่องอื่นได้อีก ลดภาระประชาชนได้อีกมากด้วย” นายชัยวุฒิ กล่าว
นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ได้กล่าวถึงการปิดแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ว่า มีความผิดแล้ว และอาจจะมีเรื่องอื่น เช่น เกี่ยวกับการพนันหรือไม่ การขายหวยที่ไม่มีหวย หรือเป็นการบิดเบือนข้อมูล ซึ่งเรื่องนี้ก็มีการดําเนินการปิดเว็บไปแล้วทั้งหมด 12 เว็บไซต์ แต่ยังเหลืออยู่บางเว็บไซต์ที่ยังปิดไม่ได้ เพราะว่ามีการคัดค้านจากเจ้าของเว็บไซต์ ก็อยู่ระหว่างรอคําสั่งศาล ศาลก็คงจะไต่สวน และมีคําสั่งออกมาเร็วๆนี้ ซึ่งเรื่องก็เป็นเรื่องหนึ่งที่กระทรวงดิจิทัลฯ พยายามดําเนินการอยู่ แต่หัวใจสําคัญก็คงอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตํารวจ และดีเอสไอก็คงต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมในเรื่องอื่นด้วยเพราะว่า การปิดแค่เรื่องกองฉลากกินแบ่งก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ว่ามันอาจจะมีเรื่องฟอกเงิน หรือเรื่องที่มีความเสียหายหรือความผิดรุนแรงกว่านั้น ต้องติดตามกันต่อไป