นายกฯ ติดตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ณ สถานีรถไฟแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม
3 ก.พ. 2566, 14:08
วันนี้ (3 ก.พ. 66) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปตรวจราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อติดตามผลการปฏิบัติราชการ และรับฟังความคืบหน้าโครงการสำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม ตามนโยบายรัฐบาล โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมการขนส่งทางราง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ร่วมตรวจเยี่ยมครั้งนี้ด้วย ซึ่งจังหวัดสมุทรสงครามเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีศักยภาพในการพัฒนาหลายด้าน ทั้งการทำเกษตรและประมงที่โดดเด่นทุกฤดูกาล โดยสินค้าเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ มะพร้าว ส้มโอ และลิ้นจี่ โดยเฉพาะส้มโอขาวใหญ่ ลิ้นจี่พันธุ์ค่อมหรือหอมลำเจียก ทุเรียนสามน้ำ เกลือทะเล และพริกมันบางช้าง ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรที่ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) การมีห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารและผลผลิตทางการเกษตรและประมงที่ค่อนข้างครบถ้วน ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค ตลอดจนมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลายทั้งด้านวัฒนธรรม ธรรมชาติทางน้ำ อาหาร และศิลปะต่าง ๆ รวมทั้งเปิดโอกาสให้หน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ รับฟังนโยบายสำคัญต่าง ๆ ของรัฐบาล เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนในพื้นที่ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป
เวลา 11.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้ออกเดินทางจากป้ายหยุดรถลาดใหญ่ ไปยังสถานีรถไฟแม่กลอง โดยขบวนรถดีเซลรางที่ 4383 (ป้ายหยุดรถลาดใหญ่ - สถานีรถไฟแม่กลอง) ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร เพื่อตรวจติดตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ณ สถานีรถไฟแม่กลอง ต.แม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม โดยระหว่างเดินทางโดยรถไฟ นายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศที่โดยสารมากับรถไฟขบวนดังกล่าวด้วย โดยบรรยากาศบนขบวนรถไฟเป็นไปอย่างคึกคักท่ามกลางนักท่องที่ยวชาวต่างประเทศจำนวนมาก ที่เดินทางเพื่อมาท่องเที่ยวและเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงระดับโลกของจังหวัดสมุทรสงครามคือ “ตลาดร่มหุบ”
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ตรวจเยี่ยมวิถีเศรษฐกิจชุมชนสถานีรถไฟแม่กลอง โดยเดินทักทายพูดคุยกับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณโดยรอบสถานีรถไฟแม่กลองและตลาดร่มหุบด้วย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวรู้สึกดีใจและมีความสุขที่ได้มาพบกับประชาชน พร้อมสอบถามถึงชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และการค้าขายของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งประชาชนต่างมาให้กำลังใจในการทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ พร้อมกล่าวว่า “รักลุงตู่” ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นและคึกคัก
เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงสถานีรถไฟแม่กลองได้รับฟังบรรยายสรุปใน 2 ประเด็นสำคัญ ได้แก่
1) แนวทางการพัฒนาโครงข่ายระบบรถไฟสายแม่กลอง (วงเวียนใหญ่ – มหาชัย – บ้านแหลม – แม่กลอง) ระยะทางรวม 66.9 กิโลเมตร เป็นเส้นทางรถไฟที่ไม่เชื่อมต่อกันตลอดสาย โดยเฉพาะระหว่างสถานีมหาชัย และสถานีบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสาคร ที่ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องลงจากขบวนรถและต่อเรือข้ามแม่น้ำท่าจีนไปต่อรถไฟอีกขบวนหนึ่งโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดทำแผนงานโครงการรถไฟสายสีแดง เหนือ-ใต้ ช่วงหัวลำโพง – วงเวียนใหญ่ – มหาชัย โดยมีการออกแบบรายละเอียดโครงการเรียบร้อยแล้ว และมีแผนการขอรับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อทบทวนแบบในปีงบประมาณ 2567 และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2570 นอกจากนี้ บริเวณเส้นทางเดินรถไฟ ช่วงสถานีรถไฟลาดใหญ่ – สถานีรถไฟแม่กลอง เมื่อเข้าใกล้สถานีรถไฟแม่กลอง เป็นเส้นทางผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงระดับโลก คือ “ตลาดร่มหุบ” ที่มีนักท่องเที่ยวโดยเฉพะชาวต่างประเทศเดินทางมาเยี่ยมเยือนเป็นจำนวนมาก
2) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักและระบบป้องกันน้ำท่วม ชุมชนเมืองสมุทรสงคราม อำเภอเมืองสมุทรสงคราม (ระยะที่ 1) ซึ่งจังหวัดสมุทรสงคราม ได้ประสานกรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบระบายน้ำหลัก และระบบป้องกันน้ำท่วมชุมชนเมืองสมุทรสงคราม อำเภอเมืองสมุทรสงคราม ซึ่งการศึกษาดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อกลางปี 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนตลาดริมแม่น้ำ สถานีรถไฟแม่กลองและตลาดร่มหุบ ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและแหล่งโบราณสถาน โดยเฉพาะบริเวณชุมชนตลาดริมน้ำวัดเพชรสมุทรวรวิหาร และตลาดร่มหุบที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด โดยโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองได้บรรจุแผนงานดังกล่าวไว้ในแผนงานงบประมาณ 2567 เรียบร้อยแล้ว
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เพื่อสักการะหลวงพ่อบ้านแหลม ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อความเป็นสิริมงคล และนมัสการพระสมุทรวชิรโสภณ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม และเจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ณ พระอุโบสถวัดเพชรสมุทรวรวิหารด้วย โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมการมีส่วนร่วมของวัดในการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน และขอให้ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองเพื่อขับเคลื่อนเศรฐกิจ สร้างอาชีพและรายได้ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องต่อไป ก่อนเดินทางต่อไปยังวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม ในช่วงบ่าย เพื่อพบปะประชาชนในพื้นที่ เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างมูลค่าและการยกระดับรายได้ของประชาชนชาวสมุทรสงครามต่อไป
สำหรับตัวเลขนักท่องเที่ยวในพื้นที่ตลาดร่มหุบและสถานีรถไฟแม่กลอง เจ้าหน้าที่ที่ดูแลบริเวณสถานีรถไฟแม่กลองระบุว่าก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแต่ละวันจำนวนมากประมาณ 5,000 ถึง 10,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวยุโรป เช่น อิตาลี ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม รวมถึงนักท่องเที่ยวจากประเทศเอเชีย เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนและญี่ปุ่นด้วย แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์สถานการณ์โควิด-19 นักท่องเที่ยวเดินทางน้อยลง อย่างไรก็ตามภายหลังสถานการณ์โควิดฯ ในประเทศคลี่คลายลง และรัฐบาลเปิดประเทศ สถานการณ์นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเดินทางมาท่องเที่ยวมากขึ้น ปัจจุบันมีประมาณ 500 ถึง 2,000 คนต่อวัน ทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่เริ่มดีขึ้นโดยลำดับ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจวิถีชุมชนท้องถิ่น เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน