มอบทองคำแท่ง 20 บาท ให้ผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 สลากบำรุงสภากาชาดไทย ปี 65 ก.มหาดไทย
6 ก.พ. 2566, 17:35
วันนี้ ( 6 ก.พ.66 ) เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมดำรงธรรม อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานมอบรางวัลสลากบำรุงสภากาชาดไทย ประจำปี 2565 กระทรวงมหาดไทย โดยมี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้บริหารสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมเป็นเกียรติและแสดงความยินดี
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบรางวัลที่ 1 ทองคำแท่ง หนัก 20 บาท มูลค่ารวม 595,000 บาท ให้แก่นายสงบ สะโตน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา ซึ่งเป็นผู้ถูกรางวัลที่ 1 สลากบำรุงสภากาชาดไทย ประจำปี 2565 กระทรวงมหาดไทย หมายเลข 138990 พร้อมกล่าวแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัล
“ในนามของกระทรวงมหาดไทย ขอเเสดงความยินดีกับผู้รับรางวัล ที่เป็นคนมหาดไทยผู้มีจิตเป็นกุศล ช่วยสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศล ของกระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะได้บำรุงสภากาชาดไทยในงานการสาธารณสงเคราะห์มากขึ้น และขอให้ได้ช่วยกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นตัวอย่างการทำความดีให้กับเพื่อนข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และบุคลากรในสังกัดกระทรวงมหาดไทยต่อไป" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวแสดงความยินดีในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สภากาชาดไทย เป็นองค์กรการกุศลเพื่อมนุษยธรรมตามหลักกาชาดสากล โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้ง “สภาอุณาโลมแดง” ขึ้น เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2436 ซึ่งถือเป็นวันสถาปนาสภากาชาดไทย และทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า (ขณะดำรงพระอิสริยยศที่ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี) ทรงเป็น “สภาชนนี” และต่อมาสภากาชาดสยามเปลี่ยนชื่อเป็น สภากาชาดไทย เมื่อปี พ.ศ. 2482 และในปัจจุบันมี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงดำรงตำแหน่ง องค์สภานายิกา และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตำแหน่ง องค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย นอกจากนี้ เพื่อให้กิจการสภากาชาดไทยสามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานในการบรรเทาทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ องค์สภานายิกา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้คู่สมรสของผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ดำรงตำแหน่ง นายกเหล่ากาชาดจังหวัด ทำหน้าที่ สังคมสงเคราะห์ประชาชนที่ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อน และผู้ด้อยโอกาส โดยเฉพาะในถิ่นทุรกันดาร และกิจการของสภากาชาดไทยในพื้นที่จังหวัด
"กระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินจัดทำสลากบำรุงสภากาชาดไทย ประจำปี 2565 จำนวน 100,000 ฉบับ ฉบับละ 100 บาท มูลค่าสลากฯ รวมทั้งสิ้น 10,000,000 บาท โดยขอความร่วมมือให้ส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จังหวัดทุกจังหวัด และหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จำหน่ายสลากฯ ซึ่งได้ทำการออกรางวัลสลากบำรุงสภากาชาดไทย ประจำปี 2565 ของกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ณ เวทีกลาง หน้าหอสมุดประชาชน สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร มีรางวัลทั้งสิ้น 51 รางวัล คือ รางวัลที่ 1 ทองคำแท่ง หนัก 20 บาท จำนวน 1 รางวัล รางวัลที่ 2 สร้อยคอทองคำ หนัก 5 บาท จำนวน 10 รางวัล และรางวัลที่ 3 สร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท จำนวน 40 รางวัล ซึ่งรางวัลที่ได้มีผู้ถูกรางวัลนั้นกระจายไปในหลายจังหวัด กระทรวงมหาดไทยจึงอำนวยความสะดวกในการรับรางวัล โดยมอบให้จังหวัดเป็นผู้มอบรางวัลให้แก่ผู้ถูกรางวัลในจังหวัดนั้น ๆ" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า การออกสลากบำรุงกาชาดไทย เป็นสลากบำรุงการกุศลที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายให้สามารถจัดได้ปีละ 1 ครั้ง เพื่อมอบรายได้ให้กาชาดไว้ใช้จ่ายในกิจการสาธารณกุศลเท่านั้น เนื่องจากสภากาชาดไทยเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการสาธารณกุศลเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถือว่าเป็นการทำบุญร่วมกัน จึงขอเชิญชวนช่วยกันสื่อสารสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกิจการของสภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยากต่อไป
"สิ่งที่ทุกท่านได้ช่วยสภากาชาดในวันนี้ ด้วยการซื้อสลากบำรุงสภากาชาด 1 ใบ เงินที่ได้จำหน่ายสลากหลังหักค่าใช้จ่าย กระทรวงมหาดไทยจะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายองค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทยในการช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก ทั้งเรื่องหยูกยา เวชภัณฑ์ ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชน รวมถึงวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ ถือเป็นการสร้างบุญร่วมกัน แต่ที่พิเศษกว่าคนอื่น คือ เป็นการทำบุญที่มีโชค และหลังจากนี้ ขอให้ได้ชักชวนเพื่อน ๆ ช่วยกันทำความดี ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผู้ตกทุกข์ได้ยาก และร่วมกิจกรรมบำรุงกาชาดกับกระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข พี่น้องประชาชนในอนาคตต่อไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย