วันนี้ (7 ก.พ.66) พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีสถิติการเกิดอัคคีภัยในสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยและบ่อขยะบ่อยครั้ง ทั้งที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชน ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหามลพิษกระทบต่อสุขภาพของประชาชน รวมถึงมีความเสี่ยงที่สถานการณ์ไฟไหม้อาจลุกลามไปยังที่พักอาศัยบริเวณใกล้เคียงและสร้างความเสียหายต่อชีวิตทรัพย์สินของประชาชน กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) จึงได้สั่งการทุกจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัยในสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยและบ่อขยะ โดยให้มอบหมายเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่และเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และป้องกันไม่ให้เกิดกรณีการเผาขยะหรือเศษวัชพืช ส่วนพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของเอกชนขอให้ประสานกำหนดมาตรการป้องกันการเกิดอัคคีภัยอย่างจริงจัง รวมทั้งให้ตรวจสอบสถานที่เก็บรวบรวมวัสดุที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย เช่น พื้นที่เก็บสารเคมีและวัตถุอันตรายที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน สถานที่เก็บไม้ พลาสติก กระดาษ ยางรถยนต์เก่าที่ไม่ได้รับการดูแลรักษาจนอาจส่งผลต่อการติดไฟลุกลามเป็นวงกว้างได้ พร้อมทั้งกำชับให้ฝ่ายปกครอง ท้องที่ และท้องถิ่น เฝ้าระวัง ตรวจตรา และขอความร่วมมือเจ้าของสถานที่ในการดูแลรักษาเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย

“ขอให้จังหวัดจัดทำแผนเผชิญเหตุรองรับกรณีเกิดอัคคีภัย โดยกำหนดภารกิจและหน่วยงานรับผิดชอบในการเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้เกิดกรณีการเผาขยะหรือเศษวัชพืชบริเวณพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางการแจ้งเตือน การประสานงาน การอพยพ และการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกรณีมลพิษทางอากาศ ให้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการดูแลสุขภาพของประชาชนให้ชัดเจน ตลอดจนให้เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกลสาธารณภัย วัสดุ อุปกรณ์ในการป้องกันและระงับอัคคีภัยขององค์ปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พร้อมระงับเหตุตลอด 24 ชั่วโมง” พลเอก อนุพงษ์ กล่าวเน้นย้ำ