วันนี้ ( 9 ก.พ.66 ) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) พร้อมด้วย พลเอก  อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายรัฐพล นราดิศร รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมประชุมคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) ครั้งที่ 1/2566 โดยมีคณะกรรมการ กปภ.ช. ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ หัวหน้าส่วนราชการ  ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ณ ห้องประชุม 1 ปภ. อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการ กปภ.ช. ในวันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณากำหนดช่วงเวลาสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคมในทุกปีเป็น “สัปดาห์แห่งการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสาธารณภัยหรือภัยพิบัติ” เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยแก่ประชาชน และส่งเสริมให้หมู่บ้าน/ชุมชน สถานศึกษา และสถานประกอบการได้ฝึกซ้อมเพื่อเตรียมรับมือกับสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งจะได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ รวม 5 คณะ พร้อมทั้งได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการวิชาการด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อทำการศึกษาข้อมูลทางวิชาการที่เกี่ยวข้องในการจัดการสาธารณภัยทั้งระบบ ทั้งการเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันและลดผลกระทบ การจัดการในภาวะฉุกเฉิน การฟื้นฟูหลังจากเกิดสาธารณภัยที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

พลเอก ประวิตร กล่าวต่อว่า ในวันนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบ (ร่าง) แผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแห่งชาติพ.ศ.2566 - 2570 ซึ่งจะเป็นแผนหลักในการจัดการความเสี่ยงจากอัคคีภัยโดยเฉพาะ ภายใต้แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2564 – 2570 โดยได้กำหนดวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีระบบการจัดการความเสี่ยงจากอัคคีภัยที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนอย่างเป็นเอกภาพ” โดยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยในระยะ 5 ปี ได้แก่ 1) ยุทธศาสตร์ที่ 1 ประชาชนปลอดภัยจากอัคคีภัย 2) ยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมาตรฐาน 3) ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนากลไกการกำกับดูแลอาคารและสิ่งปลูกสร้างเพื่อเพิ่มการป้องกันการเกิดอัคคีภัย 4) ยุทธศาสตร์ที่ 4 บูรณาการระบบการบริหารจัดการด้านอัคคีภัยและการตอบสนองในภาวะฉุกเฉิน และ 5) ยุทธศาสตร์ที่ 5 ส่งเสริมและสร้างรากฐานชุมชนเข้มแข็งเพื่อป้องกันอัคคีภัยอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งได้กำหนดกลไกการขับเคลื่อนแผนแม่บทดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งได้มอบหมายให้ ปภ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ เพิ่มเติมข้อคิดเห็นจากที่ประชุมในวันนี้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ เพื่อให้ทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนนำไปเป็นกรอบแนวทางการในการขับเคลื่อนความปลอดภัยด้านอัคคีภัยของประเทศให้เป็นระบบ มีเอกภาพ รวมถึงสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านอัคคีภัยของประเทศ นำไปสู่การลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากอัคคีภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ประชุม กปภ.ช. ยังได้รับทราบมติคณะรัฐมนตรี เรื่องการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ กปภ.ช. จำนวน 2 ท่าน ได้แก่ 1) นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัย และ 2) นายมณฑล สุดประเสริฐ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านโยธาธิการและผังเมือง เพื่อให้การจัดการสาธารณภัยของประเทศมีประสิทธิภาพ และพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะรวบรวบข้อคิดเห็นจากที่ประชุมไปดำเนินการปรับปรุงเพิ่มเติมทั้งในส่วนของการกำหนดสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคมในทุกปีเป็น “สัปดาห์แห่งการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสาธารณภัยหรือภัยพิบัติ” รวมทั้ง (ร่าง) แผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2566 - 2570 ตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เสนอความคิดเห็น และจะนำมาเสนอต่อคณะกรรมการ กปภ.ช.และคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นลำดับต่อไป