จากกรณีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)พร้อมคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่บ้านปากชัดหนองบัว หมู่ที่ 2 ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น

โดยในวันดังกล่าว พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวมอบนโยบายให้หน่วยงานภาครัฐนำไปปฏิบัติและกล่าวกับประชาชนที่ไปต้อนรับเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตที่ดินปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01)ผมได้ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาในที่ดินทำกินของพี่น้องประชาชนและมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาที่ดินโดยการกระจายสิทธิ์การถือครองเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่ที่ได้รับการจัดที่ดินนำไปสู่ความมั่นคงในพื้นที่ในที่ดินทำกินเข้าสู่การส่งเสริมและยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

วันนี้ผมและคณะได้ติดตามความคืบหน้าการขับเคลื่อนโครงการต่างๆโดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำและติดตามการแก้ไขปัญหาในเรื่องที่ดินทำกินที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นอย่างมาก จากการรายงานของสถานการณ์น้ำจะเห็นได้ว่าในพื้นที่หลายพื้นที่ในจังหวัดกาญจนบุรียังขาดแคลนน้ำทั้งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตร

ผมได้กำชับให้ทุกหน่วยงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดดำเนินการตามโครงการทรัพยากรน้ำเพื่อที่จะช่วยให้พี่น้องชาวจังหวัดกาญจนบุรีได้มีน้ำกินน้ำใช้อย่างทั่วถึง โดยให้สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติติดตามและกำกับดูแลการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ 5 อำเภอ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และกำกับติดตามหน่วยงานต่างๆให้ดำเนินการตามขีดจำกัดข้าราชการรองรับอย่างเคร่งครัด ขอมอบให้จังหวัดกาญจนบุรีเร่งรัดประสานบูรณาการและต่อยอดและขยายผลระบบส่งน้ำโครงการพัฒนาน้ำบาดาลให้ครอบคลุมในพื้นที่ขาดแคลนน้ำทั้ง 5 อำเภอ

โดยให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชและกรมป่าไม้ เร่งรัดดำเนินการพิจารณาขอใช้พื้นที่การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำอีซู เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากการแก้ไขการขาดแคลนน้ำ ส่วนกรมชลประทานให้เร่งรัดการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำอีซู และโครงการพัฒนาแหล่งน้ำสำคัญให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเร่งดำเนินการสำรวจและก่อสร้างโครงการด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเร่งรัดการขยายระบบส่งน้ำในส่วนที่เหลือให้สมบูรณ์ตามศักยภาพให้เต็มศักยภาพของเรา

และการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินนั้น ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขให้เป็นรูปธรรมโดยด่วนที่สุด ทั้งปัญหาเรื่องที่ดินทับซ้อน แนวเขตในเขตที่ไม่ชัดเจนเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิ์ในการรับอนุญาตให้เข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย

สำหรับพื้นที่ที่เข้าสู่กระบวนการคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช. จังหวัด)ให้เร่งรัดอนุญาตเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีสิทธิ์และตกทอดไปถึงลูกหลานได้ รวมทั้งไห้เร่งงรัดกับการทำแผนพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานระบบสาธารณูปโภคเพื่อรองรับการขอจัดสรรงบประมาณในโครงการต่างๆโดยด่วน เพื่อให้ประโยชน์แก่ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่มั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ส่วนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ สคทช.ให้ติดตามสถานการณ์และรายงานคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องกับ คทช.ให้ทราบ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยด่วน รวมทั้งให้เร่งรัดแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยให้จังหวัดกาญจนบุรีเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาที่ดินอย่างเป็นระบบ เช่น ปัญหาเรื่องที่ดินราชพัสดุที่กองทัพบกขอใช้ประโยชน์

สำหรับปัญหาพื้นที่ป่าหรือกรมอุทยานฯที่ทับซ้อนที่ทำกินของประชาชนที่ทำให้ขาดโอกาสในการพัฒนาและปรับปรุงแนวเขตที่ดินของ สปก.รวมทั้งเร่งรัดการแก้ไขปัญหาในการออกเอกสารสิทธิ์ เช่น การออกโฉนดที่ดินที่พิสูจน์แล้ว เพื่อให้ทันต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน

 การดำเนินการที่ผมได้มอบหมายไปแล้วนั้นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานนะ คทช.จังหวัด รวมทั้ง สคทช.ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการโดยเร็วหากมีปัญหาก็ให้รีบรายงาน พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางดำเนินการให้ผมทราบ เพื่อดำเนินแก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อนให้กับประชาชนต่อไป

สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านจงมั่นใจว่า รัฐบาลมีความจริงใจที่จะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมีความสุข และขอความร่วมมือจากทุกท่านให้ช่วยกันคิดช่วยกันทำเพื่อพัฒนาประเทศให้เจริญมั่นคงสืบไป และต้องขอฝากให้ทุกท่านและทุกหน่วยงานได้มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่เพื่อยกระดับความเป็นอยู่คุณภาพชีวิตให้กับประชาชน และต้องถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องชาวจังหวัดกาญจนบุรีทุกคนมีความสุขความเจริญคิดหวังสิ่งใดขอให้สำเร็จและสมความปรารถนาทุกประการ” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

ในการนี้ก่อนที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเดินทางไปปราศรัยครั้งใหญ่ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ที่เวทีปราศรัยบนเกาะรัตนกาญจน์ ฝั่งบ้านลิ้นช้าง อ.เมืองกาญจนบุรี พล.อ.ณัฐ  อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ภพอนันต์ เหลืองภานุวัฒน์ อดีตหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ หรือ ซ้อเจน ว่าที่ผู้สมัคร สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ

นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ (นามสกุลอ่านว่า ภู-มิ-สวัสดิ์) ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 1 นายชูเกียรติ จีนาภัคดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 2 พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 3 นางลำยอง ยิ้มใหญ่หลวง ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 4 และนายประเทศ บุญยงค์ ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ ได้นำพาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เดินทางไปถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ต.ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย โดยมีประชาชนในพื้นที่ เขต 3 ประมาณ 50 คน เดินทางมาให้กำลังใจพร้อมตะโกนอวยพรให้ ลุงป้อม เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศอีกด้วย