จ.บึงกาฬ จัดกิจกรรมจดทะเบียนสมรสบนหินสามวาฬ 13 คุ่ผู้ร่วมงานกว่า 500 ชื่นมื่น
15 ก.พ. 2566, 05:04
วันนี้ 14 ก.พ. 66 ที่หินสามวาฬ ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ ท่ามกลางสายหมอก และอากาศเย็นสบาย สถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นสักขีพยานรักของคู่สมรส บ่าว-สาว ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ในกิจกรรมจดทะเบียนสมรส ณ หินสามวาฬ 14 กุมภา วันแห่งความรัก ซึ่งมีนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม นางวาทิณี โฆษาศิวิไลซ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ นำสมาชิกชมรมฮักนะบึงกาฬประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้นำองค์กรภาคเอกชน และสื่อมวลชน ขึ้นหินสามวาฬบนภูสิงห์ มีนายธีระพล ขุนพานเพิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ เป็นสักขีพยาน พร้อมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว วิ่งไปด้วยกัน Run For Love ซึ่งจะมีกติกาให้ร่วมแสดงความยินดีกับคู่จดทะเบียน และโพสต์บรรยากาศลงในสื่อ Social Media มีผู้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้กว่า 500 คนคู่บ่าว-สาว 13 คู่ ส่วนของที่ระลึกพิเศษ สำหรับคู่สมรสที่จดทะเบียนกันวันนี้ มีบริการห้องพักฟรี 1 คืนอีกด้วย
การจัดกิจกรรมจดทะเบียนสมรส ณ หินสามวาฬ ดำเนินมาต่อเนื่องหลายปี และการใช้สถานที่แห่งนี้เป็นสัญญาลักษณ์ว่าหินสามวาฬที่เห็นอยู่นั้น แม้ผ่านร้อน ผ่านหนาว โดนแดด โดนฝน โดนลม เป็นเวลายาวนาน ก็ยังยืนหยัดเคียงคู่กันอย่างนี้มาชั่วกาลนาน จึงอยากให้ทุกคู่สมรสได้มีความรักเคียงข้างกันตราบนิจนิรันดร์ด้วยเช่นกัน ในส่วนของจังหวัดบึงกาฬ แต่ละอำเภอยังมีกิจกรรมจดทะเบียนสมรส ณ สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ณ เกาะดอนโพธิ์ อำเภอบึงโขงหลง และ ณ วัดเจติยาคีรีวิหาร(ภูทอก) ที่มีถึง 7 ชั้น อำเภอศรีวิไล อันจะได้สมหวังดั่งขึ้นสวรรค์ชั้นที่ 7 นั่นเอง
ลักษณะของหินสามวาฬนั้น เป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง แยกตัวเป็น 3 ก้อนใหญ่ๆ เรียงต่อกัน มีอายุประมาณ 75 ล้านปีเลยทีเดียว ความพิเศษของหินก็คือ เมื่อมองดูจากระยะไกลๆ หินสามก้อนนี้จะดูคล้ายกับฝูงครอบครัววาฬ มีทั้งพ่อวาฬ แม่วาฬ และลูกวาฬ ซึ่งก็จะถูกเรียกตามขนาดของหินแต่ละก้อน เป็นหนึ่งใน จุดชมวิวที่สวยที่สุดในภูสิงห์ อีกด้วย โดยเฉพาะช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้น ตอนที่พระอาทิตย์กำลังไต่ระดับขึ้นมาที่ขอบฟ้า จะได้เห็นแสงสีส้มของพระอาทิตย์ไล่เฉดสีกันอย่างสวยงาม เห็นผืนป่าสีเขียวที่อุดมสมบูรณ์ วิวของ ป่าภูวัว แก่งสะดอก ห้วยบังบาตร หาดทรายแม่น้ำโขง และภูเขาเมืองปากกระดิ่ง ประเทศลาว และถ้ามองให้ดีๆ อาจจะเห็นแม่น้ำโขงอยู่ไกลๆ ถือเป็นวิวธรรมชาติที่สวยงามอย่างมากของจังหวัดบึงกาฬ นอกจากจุดชมวิว หินสามวาฬ แล้วที่ ป่าภูสิงห์ แห่งนี้ยังมีที่เที่ยวรอบๆ ไม่ว่าจะเป็น จุดชมวิวถ้ำฤๅษี จุดชมวิวหินหัวช้าง กำแพงภูสิงห์ หัวใจภูสิงห์ เป็นต้น
การขึ้นชมหินสามวาฬ นั้นมีรถให้บริการ โดยจะจอดให้บริการอยู่บริเวณที่ทำการภูสิงห์ ตั้งแต่ 05.30-17.00 น. ค่ะ โดยมีค่าบริการคันละ 500 บาท (ไป-กลับ) รถสามารถนั่งได้ถึง 10 คน และจะใช้เวลาในการขับรถขึ้นไปประมาณ 30-40 นาที จากจุดตรวจด้านล่าง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ทางกรมป่าไม้ได้ประกาศ ให้มีการเก็บค่าบริการสำหรับบุคคลและยานพาหนะ ที่จะเข้ามาใช้บริการในป่านันทนาการหินสามวาฬ โดยคิดค่าเข้าเขตป่า ชาวไทยคนละ 20 บาท ( ยกเว้นพระภิกษุสงฆ์ นักบวช / ผู้พิการ/ผู้สูงอายุ/และเด็กต่ำกว่า 18 ปี ) ชาวต่างชาติ 100 บาท ทุกกรณี ส่วนยานพาหนะรถยนต์โดยสารไม่เกิน 12 ที่นั่ง 60 บาท ไม่เกิน 24 ที่นั่ง 100 บาท และที่นั่งเกิน 25 ที่นั่งขึ้นไป 150 บาท.