เมื่อเวลาประมาณ 03.30 น.วันที่ 15 ก.พ.66 กำลังเจ้าหน้าที่สาธารณภัยของหน่วยกู้ชีพกู้ภัยจากมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าชุดดับเพลิงจากเทศบาลเมืองชุมพร เทศบาลตำบลวังไผ่ เทศบาลเนินสันติ เทศบาลตำบลบางลึก เทศบาลตำบลหาดพันไกร และรถดับเพลิง ระดมฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้กองขยะในพื้นที่บ่อขยะของเทศบาลเมืองชุมพร ซึ่งเพลิงได้โหมไหม้อย่างหนัก เจ้าหน้าที่ต้องนำแบคโฮ มาช่วยขุดพลิกกองขยะ เพื่อให้ชุดดับเพลิง ได้ฉีดน้ำให้ชุ่มทั่วและเลี้ยงน้ำตลอดเพื่อไม่ให้เกิดความร้อนจนไฟปะทุขึ้นมาอีก อีกทั้งต้องเร่งกันแนวเขตไม่ให้ไฟลุกลามไปยังบ่อขยะ บ่อใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างไปเพียง 100 เมตร มีปริมาณขยะกองมากและกองทับถมจนสูงกว่าตึก 3 ชั้น หากลามไปถึงและเกิดไฟลุกไหม้ คาดว่าจะควบคุมเพลิงได้ยาก ประกอบกับพื้นที่โดยรอบเขตบ่อขยะ จะเป็นสวนปาล์มน้ำมัน และบ้านอยู่อาศัยของชาวบ้านจำนวนมาก  โดยเจ้าหน้าที่กว่าจะสยบเพลิงลงได้ ใช้เวลากว่า 3 ชม.

ส่วนสาเหตุมาจากปัจจัยหลายอย่างหรืออาจจะมาจากความร้อน ซึ่งในช่วงระยะนี้ อากาศในเมืองชุมพร มีอุณหภูมิร้อนมาก กว่า 35 องศา ได้แผดเผาจนทำให้ขยะซึ่งส่วนใหญ่เป็นเศษกระดาษ พลาสติก และอื่นที่เป็นเชื้อไฟอย่างดี โดยเฉพาะไฟแชคที่ยังเป็นขยะอันตราย ประกอบช่วงนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ดีขึ้น ไม่น่ากังวลดังเก่าประชาชนออกมาใช้ชีวิตเหมือนปกติ ทำให้เริ่มมีการทิ้งขวดแอลกอฮอล์ ลงถังขยะกันเป็นจำนวนมาก เมื่อเจ้าหน้าที่ไปเก็บขยะตามบ้านเรือนประชาชน แล้วนำมาทิ้งกองทับถมกัน แล้วเกิดเสียดสีหรือประการใด จนเกิดประกายไฟจนโหมลุกไหม้ ก็อาจจะเป็นไปได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเกิดไฟไหม้กองขยะในครั้งนี้ ส่งกลิ่นและควันไฟ เป็นบริเวณกว้าง โดยบ่อขยะของเทศบาลเมืองชุมพร แห่งนี้ มีเนื้อที่ กว่า 80 ไร่ มี อบต.และเทศบาล หลายท้องที่ ใน จ.ชุมพร จะนำขยะมาทิ้ง ทำให้มีปริมาณขยะในแต่ละวันมีจำนวนมาก