รวบ "หนุ่มอายุ 26 ปี" ก่อเหตุลักโทรศัพท์มือถือ 57 เครื่อง หลังให้ภรรยานำเครื่องไปขายที่สุพรรณ
30 ก.ย. 2562, 13:31
วันที่ 30 ก.ย.62 เวลา 09.30 น. ผู้สื่ิอข่าว onb news รายงานว่า ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรนังหวัดอุทัยธานี พลตำรวจตรีวินัย นุชชา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดอุทัยธานี และ ชุดสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองฉาง ร่วมกันแถลงการจับกุม ผู้ต้องหาคดีลักโทรศัพท์มือถือ ร้านขายโทรศัพท์มือถือโมบายแคร์ หมู่ที่ 5 ตำบลหนองฉาง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.30 น. โดยขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้ชายสีแดง เข้ามาจอดที่บริเวณหน้าร้านที่เกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 3:30 น. ของวันเกิดเหตุ โดยแต่งกายสวมใส่กางเกงยีนส์ขายาว เสื้อคลุมแขนยาว ใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีดำลายเขียว สวมรองเท้าแตะหูคีบ ในขณะเกิดเหตุคนร้ายได้เปิดหน้าหมวกกันน็อคทำให้เห็นใบหน้าครึ่งหน้าของคนร้าย ทำการงัดเข้าที่หน้าร้านและเข้าไปก่อเหตุภายในร้านหลังก่อเหตุได้ลักทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวนทั้งสิ้น 57 เครื่อง พร้อมเงินสดอีกประมาณ 4,000 บาท ก่อนหลบหนีไป รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้นกว่า 300,000 บาท
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดอุทัยธานี และชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองฉาง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด โดยขณะเกิดเหตุคนร้ายได้ทำการเปิดหน้าหมวกกันน็อคทำให้เห็นใบหน้าครึ่งหน้าของคนร้าย พร้อมสืบสวนหาข่าวในพื้นที่และเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย จนทราบว่า คนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุในคดีนี้คือ นายอรุณ หมื่นมหาใจ อายุ 26 ปี ที่อยู่ 350 ถนนรักการดี ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี โดยหลังก่อเหตุนายอรุณฯ ได้นำโทรศัพท์มือถือของกลางจำนวน 1 เครื่อง ให้นางวาสนา สังขวิสุทธิ์ ซึ่งเป็นภรรยา อายุ 31 ปีที่อยู่ 24/3 หมู่ 6 ตำบลหนองแก อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ไปจำนำไว้ที่ร้านโทรศัพท์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลหนองมะค่าโมง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ในราคา 3,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้ร่วมกันเดินทางไปสืบสวนติดตามและได้ทำการตรวจยึดโทรศัพท์ดังกล่าว จากทางเจ้าของร้านที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยความยินยอมเพื่อประกอบคดี และได้ดำเนินการสืบสวนติดตามจนพบตัว นายอรุณฯ และนางวาสนาฯ
โดยต่อมา วันที่ 29 กันยายน เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามจับกุมตัว นายอรุณฯ และนางวาสนาฯ ได้ในพื้นที่อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยสอบถามบุคคลทั้งสองถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายอรุณฯ ให้การยอมรับว่าได้เข้าก่อเหตุลักทรัพย์ในคดีนี้จริง ส่วนนางวาสนาฯ แจ้งว่า ตนไม่รู้ว่านายอรุณฯ ไปก่อเหตุมา และนายอรุณฯ ได้ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจยึดทรัพย์ที่ได้ลักไปทั้งหมดเพื่อประกอบคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เชิญตัวนายอรุณฯ และนางวาสนาฯ มาพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองฉาง และได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองฉาง เพื่อทำการสอบสวนและดำเนินคดี
ด้าน พลตำรวจตรีวินัย นุชชา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี กล่าวว่า คดีนี้ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ ได้ทำการเปิดหน้าหมวกกันน็อคขึ้นจึงทำให้เห็นใบหน้าครึ่งหน้าของคนร้าย จึงเป็นช่องที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มทำการแกะรอยได้เพิ่มเติม จนนำมาสู่การดำเนินการติดตามจับกุมตัวได้สำเร็จ เบื้องต้นทราบพฤติการคนร้ายนี้ว่า มีอาชีพขายของเก่า จึงคาดว่าอาจจะทำการลักมาแล้วขายไปทันที ประกอบกับก่อนที่จะเกิดเหตุในครั้งนี้ ในพื้นที่อำเภอหนองขาหย่าง และ อำหนองฉาง ได้เกิดเหตุคนร้ายเข้างัดบ้านเรือนประชาชน และลักโทรศัพท์มือถืออยู่ภายในบ้านไปหลายราย โดยยังคงอยู่ระหว่างการติดตามสอบสวนว่า เป็นคนร้ายคนเดียวกันกับคดีนี้หรือไม่ โดยอยากให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความและเบาะแสเพิ่มเติม เพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว