เมื่อเวลา 11.50 น.วันที่ 28 ก.พ. 66  ร.ต.อ.ภคพงษ์  ซื่อตรง ร้อยเวรสอบสวนคดีจราจร สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีรถปิคอัพตกลงไปในห้วยสำราญบริเวณ หลังวัดบ้านอีลอก ต.โพธิ์ อ.เมือง  จ.ศรีสะเกษ มีผู้ติดอยู่ในรถที่จมอยู่ใต้น้ำ  จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ณัฐกิตต์  เจริญเกษสุวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ  ทราบและรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน และหน่วยกู้ภัยศรีสะเกษสงเคราะห์  เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเศษวัสดุอุปกรณ์ต่าง  ๆ ตกลงจากรถลงมากองอยู่ริมฝั่งห้วยสำราญ  พบตัวอักษรคำว่า คนหลวงติดอยู่ที่แผ่นกระจก และพบว่า รถยนต์ได้พุ่งตกลงไปจมอยู่ในลำน้ำห้วยสำราญ

ต่อมาเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทั้ง 2 แห่ง ได้จัดชุดประดาน้ำลงไปค้นหาร่างของผู้ที่ติดอยู่ในรถใต้น้ำ ความลึกประมาณ 6 -7 เมตร  เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยได้ปฏิบัติหน้าที่ลงค้นหาผู้สูญหายใช้เวลาในการค้นหาประมาณ 20 นาที   จึงพบผู้บาดเจ็บ 2 ราย  ติดอยู่ภายในตัวรถ  ได้รีบนำตัวขึ้นมาบนตลิ่ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจอย่างเต็มความสามารถ  ประมาณ 30 นาที เนื่องจากผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย  ขาดอากาศหายใจและจมอยู่ในน้ำเป็นเวลานานไม่สามารถยื้อชีวิตของผู้บาดเจ็บได้ แพทย์เวร รพ.ศรีสะเกษ ยืนยันเสียชีวิตที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสุพิศ  จันเทพา อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 3 บ้านโนนจาน ต.โพธิ์  อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ให้การว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย  ชื่อ ดต.ธารา  เสาเวียง  อายุ  50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 475 หมู่ 2 ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ รับราชการเป็น ตร.ตชด.อยู่ที่ จ.สุรินทร์ และนายบุญปลูก  เสาเวียง  อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 6 ต.ลิ้นฟ้า อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ก่อนเกิดเหตุ  ดต.ธารา  เสาเวียง  ได้กลับมาเยี่ยมบ้าน และชักชวน นายบุญปลูก  เสาเวียง  จะไปตกปลาด้วยกัน  และได้พากันขับรถยนต์ปิคอัพ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นไทเกอร์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนออกมาด้วยกัน  โดยมี ดต.ธารา  เสาเวียง  เป็นผู้ขับขี่ และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งถนนเป็นถนนลูกรัง คาดว่ารถปิคอัพที่ขับขี่มาอาจจะเสียหลักทำให้รถปิคอัพพุ่งตกลงไปในน้ำ ทำให้ทั้ง 2 ราย  จมใต้น้ำเสียชีวิตอยู่ในซากรถอย่างน่าอนาถ  ซึ่ง  ร.ต.อ.ภคพงษ์  ซื่อตรง ร้อยเวรสอบสวนคดีจราจร จะได้ทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป