ครม.ไฟเขียว! งบโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรมฯ ปีละ 12 ล้าน สร้างโอกาสเยาวชน 5 จังหวัดชายแดนใต้
1 มี.ค. 2566, 10:12
วันนี้ (1 มีนาคม 2566) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ว่า ครม.เห็นชอบหลักการการสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” โดยสนับสนุนงบประมาณอุดหนุนให้กับมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ จำนวนปีละ 12 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เป็นต้นไป ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เสนอ
มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร มีภารกิจดำเนินกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ ซึ่งได้ดำเนินโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” มาตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโอกาสและส่งเสริมให้เยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีโอกาสเรียนรู้และเข้าใจในบริบทของสังคมไทย ตลอดจนเพิ่มพูนทักษะประสบการณ์ตรงในการเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ในสังคมพหุวัฒนธรรม โดยมีกลุ่มเป้าหมาย เป็นเยาวชนที่มีอายุ 16 – 18 ปี ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดสงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ที่มีผลการเรียนในระดับ 3.00 ขึ้นไป กำลังศึกษาในสถานศึกษาของรัฐและเอกชนทั้งในระบบและนอกระบบ ครอบครัวยากจนหรือกำพร้า ขาดโอกาสทางการศึกษา ประสบเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมจำนวน 640 คนต่อปี ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 รุ่น รุ่นละ 320 คน
ส่วนการดำเนินโครงการนั้น จะนำกลุ่มเป้าหมายทั้ง 2 รุ่น ครูพี่เลี้ยง และคณะกรรมการดำเนินโครงการ เข้าร่วมการฝึกอบรมและพัฒนาการเรียนรู้ด้วยการร่วมใช้ชีวิตกับครอบครัวอุปถัมภ์ใน กทม. และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้ง ทัศนศึกษาและเข้าค่ายสิ่งแวดล้อม ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ระยะเวลารวม 30 วัน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ของชุมชนสังคมพหุวัฒนธรรม รวมถึงการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ วิสัยทัศน์ ทัศนคติ และประสบการณ์ชีวิตที่ดี พร้อมทั้งจัดตั้ง “สมาคมเยาวชนสานใจไทย สู่ใจใต้” โดยขยายผลเป็นลักษณะเครือข่ายเด็กและเยาวชนรวมถึงประชาชนทั่วไป เพื่อร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสาทำความดีเพื่อแผ่นดิน โดยจะมีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานเป็นประจำทุกปี
นางสาวรัชดา กล่าวว่า งบประมาณที่สนับสนุนโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ ปีละ 12 ล้านบาทนั้น นำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการตลอดระยะเวลาฝึกอบรม 30 วัน รวมทั้งสิ้น 720 คน แบ่งเป็น 1.เด็กและเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย รวม 640 คน 2.ครูพี่เลี้ยง 40 คน และคณะกรรมการดำเนินโครงการ 40 คน คิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน จำนวน 16,670 บาท ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ได้แก่ ค่าอาหารเช้า กลางวัน และเย็น ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม ค่าที่พัก ค่าเช่าเหมารถบัสปรับอากาศ และค่าเอกสารประกอบกิจกรรม
“โครงสานใจไทย สู่ใจใต้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ให้มีความรู้ความเข้าใจและมีทักษะการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม เกิดเป็นเครือข่ายของเด็กและเยาวชนที่เข้มแข็ง สามารถเป็นแกนนำ เพื่อสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง ซึ่งเป็นสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการเสริมสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”นางสาวรัชดากล่าว