เช้ามืดวันนี้ 2 มีนาคม 2566 เวลา 04.30 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรลาดหญ้า ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักลงข้างทางมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหลายราย ที่บริเวณถนนเส้นไทรโยค ขาเข้าเมือง ช่วง กม.80-81 จึงได้รีบลงพื้นที่พร้อมประสานแพทย์เวรจากโรงพยาบาลพหลพลพายุหเสนา และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือ และร่วมชันสูตรพลิกศพ

เมื่อไปถึงที่เกิดพบ ร่องรอยของรถยนต์ลื่นไถลตกลงข้างทางพบร่องรอยชนเข้ากับก้อนหินขนาดใหญ่ ใกล้กันพบคนเจ็บจำนวน 9 คน เป็นชาวพม่า(โรฮิงญา) ร้องด้วยความเจ็บปวด เจ้าหน้าที่จึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำ ส่งโรงพยาบาลพหลพลพายุหเสนา

ตรวจสอบพบรถยนต์ อเนกประสงค์ รุ่นมิตซูบิชิ จีวาก้อน สีเทา ทะเบียน กม 1353 นครสวรรค์ สภาพกระจกแตก ล้อหน้าและหลังด้านหลุดออก รอบตัวรถพังเสียหายยับเยินทั้งคัน ใต้ท้องรถพบศพหญิงชาวพม่า เสียในที่เกิดเจ้าหน้าจึงได้ช่วยกันงัดร่างออกมาเพื่อชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นพบว่าสาเหตุการเสียชีวิต คอหัก ซี่โครงหัก เจ้าหน้าที่จึงได้นำร่างไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาล

จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ บอกว่าได้รับแจ้งเหตุช่วงเวลา 04.30 น. ว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ มีผู้บาดเจ็บและมีผู้เสียชีวิตหลายราย จึงได้รีบนำกำลังลงพื้นที่พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง เพื่อทำการช่วยเหลือ เบื้องต้นพบ ว่ามีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุเป็นหญิง 1 รายหนึ่งรายจากการสอบถามเบื้องต้นไม่สามารถสื่อสารได้เพราะว่าเป็นชาวต่างชาติ จึงได้ช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บจำนวน 9 ราย 1 ในผู้บาดเจ็บเป็นเด็กชาย นำส่งโรงพยาบบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุบอกว่า ช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงดังคล้ายกับอะไรระเบิด แล้วมีเสียงไถลตกลงไปข้างทาง จากนั้นก็มีกลุ่มคนจำนวนมากเกิน 10 คน ยืนอยู่บริเวณโดยรอบรถคันเกิดเหตุ และมีคนร้องด้วยเจ็บปวดอีกกว่า 10 คน ก่อนที่จะกระจายตัวหายไปตามป่าบริเวณข้างทาง จากนั้นก็มีรถมูลนิธิวิ่งมายังจุดเกิดเหตุเพื่อทำการช่วยเหลือผู้ที่บาดเจ็บและเสียชีวิต สำหรับเส้นทางนี้จะเกิดอุบัติเหตุบ่อยเนื่องจากเป็นทางตรง ผู้ขับขี่ส่วนมากอาจจะหลับใน ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

รายงานข่าวแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 1 รายเป็นเด็กชายไม่ทราบอายุ เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุครั้งนี้

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมกับสอบปากคำผู้บาดเจ็บถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ว่าเป็นคนชาติไหนเดินทางเข้าประเทศอย่างไร แล้วจะไปไหนอย่างละเอียดต่อไป