หาดูยาก ! "ต้นหน้าวัว" สีสันแปลกตา ราคา 3 ล้านบาท ต้นเดียวในโลก เจ้าของไม่ยอมขาย
4 มี.ค. 2566, 09:49
นายสรรพสิริ เชาวน์วาณิชย์ ผู้จัดงาน Bangkok International Exotic Plants Show & Sale ครั้งที่ 1 เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอ ในการเป็นแหล่งวัตถุดิบ ฐานการผลิต และการเป็นศูนย์กลางการค้า Exotic Plants ที่ผ่านมา ประเทศไทยถือเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกในการทำเรื่องของไม้แปลกไม้หายากหรือ Exotic Plants แต่ว่ายังไม่เคยมีการเปิดตัวให้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป ที่ผ่านมาจะเป็นการรู้จักเฉพาะกลุ่มว่า ประเทศไทยมีของดีราคาถูกสามารถทำกำไรต่อได้มหาศาล
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพของพื้นถิ่นในเมืองไทย ให้ชาวโลกได้รู้ว่าเรามีผลิตภัณฑ์อะไรดี ๆ ขายบ้าง และต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้า Exotic Plants ให้ได้ เพราะที่ประเทศไทยมีจุดแข็งในการเพาะขยายพันธุ์พืชได้ดีแทบทุกชนิดอยู่แล้ว อีกทั้งเรื่องของ “ค่าแรง” ก็ยังถือว่าไปได้อยู่ ต้นทุนการผลิตโดยรวมจึงค่อนข้างราคาถูก สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างแน่นอน และจุดประสงค์ของการจัดงานที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ต้องการให้ผู้ซื้อ ผู้ขาย ได้มาพบปะและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน และเป็นการต่อยอดขยายโอกาสให้ต่างชาติได้เข้ามาเห็นศักยภาพของเกษตรกรชาวสวนคนไทย ซึ่งจะช่วยให้กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตต่อไป
ภายในงานยังได้พบกับดอกไม้และพรรณไม้แปลก ไม้หายาก มาจำหน่ายด้วย เช่น บูธของเยอรมันกับอัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์) ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของแหล่งไม้ดอก ก็จะมี “รองเท้านารี” ที่เพาะขายไปทั่วโลกมาโชว์และจำหน่าย ส่วนจากอเมริกาก็จะเป็น “หน้าวัว” สายพันธุ์ใหม่ซึ่งเป็นพืชพื้นถิ่นเดิมของเม็กซิโก ส่วนเปรู โคลัมเบีย ซึ่งเป็นศูนย์รวมของไม้อเมซอนก็ได้นำ “ฟิโลเดนดรอน” ที่ใกล้สูญพันธุ์ หน้าวัวรูปทรงแปลกตา รวมถึงกลุ่มของ exotic plant หายากจากป่าอเมซอนมาอวดโฉมความสวยงาม แต่เป็นที่ฮือฮาคือการนำต้นตระกูล Anthurium กลุ่มหน้าวัว ราคา 3 ล้านบาทมาจัดแสดง โดยต้นดังกล่าว มีสีและลายที่แปลกตา และมีเพียงต้นเดียวในโลกทำให้ นักสะสมทั่วโลกต้องการ พยายามติดต่อขอซื้อ แต่ทางเจ้าของไม่ยอมขาย เพราะต้องการเก็บไว้ขยายพันธุ์ สำหรับงานดังกล่าว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-5 มีนาคม 2566 ที่ ฮอลล์ 6 IMPACT Exhibition Center ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น.