คพ.เผยค่าฝุ่น PM2.5 ภาคเหนือ-กทม.-ปริมณฑล ยังพุ่งสูงหลายพื้นที่
6 มี.ค. 2566, 14:48
วันนี้ ( 6 มี.ค.66 ) นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (6 มี.ค.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด พบค่าฝุ่น PM 2.5 ปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ยังสูงเกือบทุกพื้นที่ เกินมาตรฐานในระดับสีส้ม 17 พื้นที่ และสีแดง 15 พื้นที่ บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา ตาก สุโขทัย และพิษณุโลก อยู่ที่ 93 - 130 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบฝุ่นสูงสุดบริเวณ ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย เพราะยังพบการเผาในที่โล่ง การเผาไร่อ้อย และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีผลต่อการสะสมของฝุ่น พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ทั้งนี้ ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงบริเวณภาคเหนือตอนบนและตอนล่างถึงวันที่ 13 มีนาคม ขณะที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบบางพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ปรับตัวสูงขึ้นบางพื้นที่ เกินมาตรฐานในระดับสีส้ม 3 พื้นที่ บริเวณ จ.เลย หนองคาย และนครพนม อยู่ที่ 54 - 77 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นปรับตัวลดลงเล็กน้อยบางพื้นที่ แต่สภาพอากาศปิด ลมอ่อน และบางพื้นที่การจราจรค่อนข้างหนาแน่นทำให้ฝุ่นเกิดการสะสมตัว โดยยังพบเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม 78 พื้นที่ เช่น ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี // ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี // ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน // ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม // สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา // ริมถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ อยู่ที่ 51 - 81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ ศูนย์แบบจำลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ถึงวันที่ 8 มีนาคม มีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงอีกบางพื้นที่ จากนั้นตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคมเป็นต้นไปสถานการณ์ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากลมทางใต้ช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai