เมื่อเวลา 17.40 น.ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือค้นหาคนหายทางน้ำในพื้นที่หมู่ 4 (บ้านควน)ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยและอุปกรณ์ดำน้ำเร่งตรวจสอบ

จุดเกิดเหตุเข้าทางหัวสะพานข้ามคลองสำนักเป็นถนนคอนกรีตไปประมาณ 200 เมตร พบนางบุญสร้าง พยุหกฤษ อายุ 65 ปี ยืนอยู่หน้าบ้านตนเองพร้อมกับน.ส.เมธาพร  พยุหกฤษ 16 ปี  แม่และลูกสาวคนโตผู้สูญหาย โดยลูกสาวให้ข้อมูลว่าพ่อของตนชื่อนายสุรเชษฐ์  พยุหกฤษ อายุ 41 อยู่บ้านเลขที่ 36/5 หมู่ 2 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร อาชีพทำสวนยางพารา เข้าวันเดียวกันพ่อไปส่งน้องสาวคนเล็กอายุ 11 ปีที่โรงเรียน ก่อนจะออกไปตระเวนหาปลาหาหอยหลังว่างจากตัดยางเป็นประจำเกือบทุกวัน แต่พ่อมีโรคคือเส้นเลือดในสมองตีบ

จนกระทั่งวันนี้พ่อของตนได้ขับรถจักรยานยนต์มาจอดไว้หน้าบ้านย่าหลังจากนั้นหายไปนานครึ่งค่อนวัน  โดยปกติต้องกลับบ้านก่อนไปรับน้องสาวตนหรือลูกสาวคนเล็กของพ่อกลับจากโรงเรียน แต่เงียบสูญหายไปโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ หลังจากนั้นก็แจ้งญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านออกค้นหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่น.ส.เมธาพร กำลังให้ข้อมูลอยู่นั้น นายสิทธิชัย  พยุหกฤษ อายุ 46 ปี ทราบว่าเป็นพี่ชายนายสุรเชษฐ์ ผู้สูญหาย เดินเข้ามาหาโดยบอกหลานสาวด้วยสีหน้า มีอาการโศกเศร้าน้ำตาคลอว่าพบพ่อแล้ว พร้อมกับพากันไปดูศพที่อยู่ในร่องน้ำข้างสวนยางพาราห่างจากบ้านแม่ตนเองไปประมาณ150 เมตร พอลูกสาวเห็นสภาพศพของผู้เป็นเข่าทรุดร่ำให้ตะโกนเรียกพ่ออย่างน่าเวทนาสงสาร  หลังจากนั้นไม่นานน.ส.สุพรรษา อิทรสินธ์ 39 ปี ซึ่งเป็นภรรยามาถึงที่เกิดเหตุต่างร่ำให้ปริ่มจะขาดใจ

ต่อมาพ.ต.ท.ศุภกิจ พนัสนาชี สว.(สอบสวน) สภ.ปะทิว จ.ชุมพร เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ตรวจสอบสภาพศพผู้เสียชีวิตพบว่า นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อแขนสั้นสีดำ สวมรองเท้าบูทสีขาว นอนคว่ำหน้าอยู่ในร่องน้ำลึกประมาณ20-30 ซม.ศีรษะทิ่มจมโคลน ใกล้กับอุปกรณ์จับปลา(โง้) ภายในมีเต่า 1ตัว ห่างกันประมาณ 10 เมตรพบถุงปุ๋ยขนาดเล็กวางอยู่ใกล้ตนยางพาราเปิดดูภายในมีหอยโข่งและแว่นตาดำน้ำสีดำ 1 อัน คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต

สอบถามพี่ชายผู้เสียชีวิต เจอศพคนแรก ทราบว่าหลังจากที่รู้ว่าน้องชายออกจากบ้านตระเวนหาหอย ปลา เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวซึ่งเป็นคนขยันทำมาหากิน แล้วได้หายตัวไปจึงออกตามหาจนมาพบร่างดังกล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวบสอบเบื้องต้นเก็บหลักฐานและสอบพยานในที่เกิดเหตุแล้วสันนิษฐานว่าคนตายอาจจะเป็นหน้ามืดวูบเป็นลมร่างล้มจมน้ำศีรษะทิ่มโคลนช่วยเหลือตนเองไม่ได้เสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามส่งศพให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง