รวบผู้ก่อเหตุฆ่า ! "ตาวัย 67 ปี" กลางไร่มันสำปะหลังได้แล้ว สารภาพทำไปเพราะเมาหนัก โมโหที่ถูกคนตายด่า
14 มี.ค. 2566, 12:00
จากกรณีนายลา ราชาวัง อายุ 67 ปี ถูกคนร้ายใช้อาวุธเป็นของแข็งไม่มีคม ตีบริเวณโหนกแก้มขวา หูด้านซ้าย และศีรษะด้านหลัง เสียเลือดมากจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เหตุเกิดที่กระท่อมนากลางไร่มันสำปะหลัง ห่างจากหมู่บ้านดงเค็ง ต.บ่อใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ประมาณ 2 กิโลเมตร
ล่าสุดวันนี้ (14 มีนาคม 66) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บรบือ สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ ทราบชื่อคือ นายทวิช กินาบุญ หรือนายนุ อายุ 39 ปี ราษฏรบ้านหนองตูบ ต.หนองโก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง สาเหตุเกิดจากอาการเมาสุราอย่างหนัก
พ.ต.อ.นพดล ศรีชะตา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบรบือ กล่าวว่า ภายหลังจากได้รับแจ้งเหตุก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บรบือ ลงพื้นที่ออกติดตามหาข่าว ในพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมชุดพอสูจน์หลักฐาน เก็บหลักฐานบริเวณที่เกิดเหตุ
โดยผู้ต้องแจ้งว่าในคืนเกิดเหตุ (12 มี.ค.66) ได้ดื่มสุราตั้งแต่ช่วงเย็น มีอาการเมาสุราอย่างหนัก ก่อนจะขับขี่รถยนต์จากบ้านตนเอง ใช้เส้นทางการเกษตรจากบ้านหนองตูบไปบ้านดงเค็ง เพื่อที่จะไปดูหมอลำ แต่ด้วยความเมา ทำให้รถเสียหลักปีนเนินดิน ตัวรถติดคาอยู่ ทำให้ไม่สามารถขับต่อไปได้ จึงได้ลงจากรถไปหาคนมาช่วยเหลือ จากจุดที่รถจอด ไปยังกระท่อมนา ห่างกันประมาณ 600-800 เมตร ซึ่งผู้ต้องหาเป็นคนที่พอเหล้าเข้าปากแล้วก็จะเปลี่ยนเป็นอีกคน
โดยกระท่อมนาหลังแรกที่เข้าไป ไม่มีคนอยู่ ทำให้นายนุโมโห ใช้ไม่ทุบทำลายอ่างน้ำ และดึงสายไฟ ทำลายทรัพย์สิน ก่อนจะเดินออกไปและได้ถอดรองเท้าทิ้งไว้ ถัดไปที่กระท่อมนาอีกหลัง ก็ไม่มีคนอยู่ ด้วยความโมโห ก็ทุบทำลายโอ่งน้ำใบใหญ่จนแตกเสียหาย ก่อนจะเดินลัดไร่มันสำปะหลังไปยังกระท่อมนาที่เกิดเหตุ
นายนุ อ้างว่า เมื่อมาถึงก็ได้ตะโกนถามว่ามีใครอยู่มั้ย แต่กลับถูกกนายลาด่ากลับมาว่า "แม่ง!! มาทำอะไรป่านนี้" (ภาษาอีสาน แม่มึงเอ้ยมาหยังยามนี้) เกิดความโมโห จึงได้คว้าท่อนไม่ยูคาลิปตัสที่วางอยู่ใกล้บันได ขึ้นไปกระหน่ำตีนายลาบนที่นอน โดยตลบมุ้งลงแล้วตี ต่อย จนนายลาแน่นิ่งไป ก่อนจะหลบหนีกลับไปที่บ้านของตนเอง แล้วให้คนเอารถไถมาช่วยดึงรถที่ติดหล่มกลับบ้าน
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลก็ได้ไปติดตามสอบถามข้อมูล จนนายนุรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง เพราะโมโหที่ถูกด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย
ซึ่งภายหลังจากที่ทำแผนเสร็จเรียบร้อย นายนุได้ยกมือขอโทษนางอาน ราชาวัง ภรรยาของนายลา ผู้เสียชีวิต โดยนางอาน ก็ได้อโหสิกรรมให้ พร้อมพูกเพียงสั้น ๆ ว่ามันสายไปแล้ว ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวกลับไป
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , บุกรุกในเคหะสถานผู้อื่นในเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป