ด้านนางสาวพัชรี พรหมพุด วิทยากรจากศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพอำเภอควนโดน สาขาวิทยาลัยเทคนิคสตูล เป็นผู้ให้ความรู้ ( ผู้หญิงคลุมหัวใส่แว่น ) กล่าวว่า ก๋วยเตี๋ยวเรือ ทำง่าย และเมื่อทำเป็นสามารถกลับไปทำกินที่บ้านได้ โดยทางตนเองสอนการทำการจัดสรรวัตถุดิบ การปรุง และที่สำคัญรสชาติที่ต้องอร่อย สามารถนำไปต่อยอดเปิดร้านค้าขายได้ และที่สำคัญราคาตามร้านที่ขายอยู่ชามละ 50 ถึง 70 บาท หากเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อสด และก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อเปื่อย ส่วนน้องๆเยาวชนให้ความสนใจเป็นอย่างมากสอบถามตลอด และที่สำคัญในช่วงเดือนรอมฎอน ใกล้จะมาถึงนี้ของพี่น้องชาวอิสลาม น้องๆจะกลับไปทำเป็นอาหารแก้บวชในช่วงยามเย็นอีกด้วย นายสุจริต ยามาสา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง กล่าวว่า เด็กและเยาวชน เป็นวัยแห่งการเปลี่ยนผ่านจากชีวิตที่ดำรงอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ ผู้ปกครองสู่การแสวงหาเป้าหมายในการดำรงอยู่ของตนเอง มองหาสิ่งที่ตนชื่นชอบ อยากจะเป็น และพยายามทดลองทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อแสดงถึงความเป็นตัวตนของตนเองที่จะยืนอยู่ในโลก สังคม และชุมชน ให้ตนเป็นในแบบที่ตนชื่นชอบนั้น หลายครั้งจะมีพฤติกรรมแปลก ๆ การเลียนแบบความประพฤติปฏิบัติที่เบี่ยงเบนไปจากความคาดหวังของครอบครัว ชุมชน สังคมปกติทั่วไป จนอาจถึงระดับที่เป็นอันตรายต่อสวัสดิภาพตนเอง และสังคมรอบข้าง การปรับทิศทางความคิด แนวทางการใช้เวลา และใช้ชีวิตเข้าสู่กระแสการมีงานทำ จะเป็นการสร้างคุณค่าให้กับตัวเด็กเอง สังคม และประเทศชาติ สิ่งที่มีค่ามากที่สุดที่พ่อแม่ให้เราคือการศึกษาเรียนรู้เราก็ต้องขยันและตั้งใจดีการมาเรียนรู้ในครั้งนี้อยากให้ได้รับความรู้กลับไปให้มากที่สุดและสามารถต่อยอดได้ ซึ่งทุกคนที่มาในวันนี้ถือว่าโชคดีที่ได้มีโอกาสเรียนรู้ เพราะการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด และทาง อบต.ฉลุง ก็เล็งเห็นถึงความสำคัญในการฝึก ทั้งนี้นางสาวรุสซิลนีย์ เจ๊ะสัน อายุ 17 ปี ประธานสภาเด็กและเยาวชนตำบลฉลุง ( เยาวชนใส่เสื้อลายคลุมหัว ) กล่าวว่า ดีใจที่ผู้ใหญ่จัดโครงการมาสอนทำก๋วยเตี๋ยวเรือ แม้ว่าอาจะเป็นอาชีพที่ง่ายๆแต่ อาชีพนี้สร้างงาน สร้างเงินได้ พร้อมกับสามารถไปต่อยอดทำกินที่บ้านได้ ส่วนการเรียนรู้ ก็เรียนได้ไม่ยาก ทำได้ เพียงจดและจำสูตรการปรุงแต่งรสชาติ โดยเพื่อนๆบอกว่า บางคนฝันอยากทำก๋วยเตี๋ยวขาย วันนี้ได้เรียนรู้ก็สามารถไปต่อยอดได้ หากเรียนจบไปแล้วตกงานไม่มีงานทำ อาชีพค้าขายก็ไปต่อยอดได้เช่นกัน