สุนัขจิ้งจอกแสนเชื่อง ออกจากป่า มาอาศัยบ้านเรือนชาวบ้าน แม้ฝูงสนุขจิ้งจอกจากป่ามาตามก็ไม่กลับ
21 มี.ค. 2566, 14:43
วันที่ 21 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ มีสุนัขจิ้งจอกแสนเชื่องเพศผู้อยู่ตัวหนึ่ง ที่อยู่ในบริเวณวัด รูปทรงลำตัวผอมเพรียว ปลายจมูกยื่นยาว หูตั้ง ขนปกคลุมลำตัวสีน้ำตาลแกมเหลืองเทา ขาทั้งสองคู่ยาว ขนปกคลุมสีน้ำตาล วิ่งอยู่ตัวเดียวไม่เข้าฝูงและนอนพักตามร่มไม้โดยไม่มีอาการดุร้ายแต่อย่างใด และสุนัขจิ้งจอกตัวนี้พยายามที่จะเข้าฝูงกับหมาบ้าน แต่หมาบ้านที่อยู่ในวัดก็พยายามจะรุมทำร้ายเจ้าสุนัขจิ้งจอก แต่สุนัขจิ้งจอกตัวนี้กลับไม่มีอาการดุร้ายหรือตอบโต้ ชาวบ้านและคนในวัดจึงตั้งชื่อว่าเจ้าจอก สุนัขจิ้งจอกตัวนี้มีอายุประมาณ 3 - 4 ปี ตั้งแต่หลงฝูงเข้ามาแล้วมีคนในวัดเอาข้าวเอาน้ำมาให้ กิน เจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวนี้จะกินข้าวไม่ได้เลย จึงได้เอาพวกเนื้อ หรือพวกตับลูกชิ้นให้กิน ถึงจะกิน แล้วมีชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า สุนัขจิ้งจอกตัวนี้จะหอนตลอด เขาเห่าไม่เป็น มีนักท่องเที่ยวบางคนไปลูบหัวก็มี ซึ่งในป่ารอบวัดแห่งนี้จะมีสุนัขจิ้งจอกอยู่หลายฝูง และจะมีเสียงหอนอยู่ตลอด เจ้าจอกเองก็จะหอนรับ แต่ไม่เข้าฝูง และก็จะวิ่งอยู่บริเวณวัด นอนพักตามร่มไม้ไม่ยอมไปไหน
คุณยายอทิตยา อายุ 67 ปี เจ้าหน้าที่วัดเขาศาลา ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สุนัขจิ้งจอกตัวนี้จะมาขออาหารกินเกือบทุกวัน เขาจะอยู่บริเวณนี้ จะเข้าป่าไม่เป็น บางครั้งเขาก็จะไปล่าไก่ป่ามากิน สุนัขจิ้งจอกตัวนี้จะเห่าไม่เป็นเขาจะหอนแต่หอนไม่เหมือนหมาบ้าน เขาไม่เคยทำร้ายคน ไม่เคยกัดคน บางคนเคยลูบหัวเขาได้ แต่ถ้าจับต้องเขามากๆไม่ได้ เขาจะกลัวคน บางครั้งเขาจะวิ่งมาหาด้วยความคิดถึง เขาชื่อว่าเจ้าจอก เพศผู้ อายุวัยรุ่นประมาณ 3-4 ปี ในบริเวณวัดเขาศาลา จะมีสุนัขจิ้งจอกหลายฝูง แล้วก็สวยงามมาก และมีเยอะมาก มีอยู่วันหนึ่งได้ยินเสียงสุนัขจิ้งจอกที่อยู่ในป่า จิ้งจอกก็หอนเรียกรับกันอยู่ประมาณ 3 วัน แต่ไม่ไปกับเขา สุนัขจิ้งจอกกินข้าวไม่เป็น คุณยายอทิตยาฯกล่าว
สำหรับ วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ตั้งอยู่ในเขตเขาศาลา ป่าชายแดนไทย-กัมพูชา มีสภาพแวดล้อมที่มีป่าและภูเขาล้อมรอบ มีเนื้อที่ ครอบคลุม ประมาณ 10,865 ไร่ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้ และสมุนไพรหายาก รวมทั้งสัตว์ป่านานาชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธาร มีทัศนียภาพที่งดงาม สภาพแวดล้อมเงียบสงบร่มเย็น เหมาะกับการศึกษาปฏิบัติธรรม และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่สำคัญยิ่ง ผืนป่าบางส่วนติดชายแดนไทย-กัมพูชา ถึงแม้ว่าจะมีร่องรอยการตัดไม้ทำลายป่าให้เห็นอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ป่าทั้งผืนแห่งนี้ จัดได้ว่าอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในเขตอีสานใต้ มีที่เที่ยวชมภูผาบนเขา เมื่อขึ้นไปยืนที่หน้าผาสูง ที่วัดเขาศาลาก็จะมองเห็นทิวเขาพนมดงเร็ก ตะเข็บชายแดนเขมรอยู่ลิบ ๆ จินตานาการได้เลยว่า แผ่นดินไทยตามแนวชายแดนยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก บนหน้าผา มีวิวทิวทัศน์ให้ดูสวยงามมาก มีก้อนหินซ้อนเทินกันหมิ่นเหม่รูปทรงแปลกๆ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งของ จ.สุรินทร์