พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตำรวจ บช.สอท., บก.ตม.3, ชุดปฎิบัติการพิเศษคอมมานโด, ตำรวจชลบุรี และ ปปง.เปิดปฎิบัติการทลายรังคอลเซ็นเตอร์ ปิดล้อมตรวจค้น 36 เป้าหมายในพื้นที่ จ.ชลบุรี, ระยอง, สมุทรปราการ และร้อยเอ็ด

หนึ่งในจุดที่ตรวจค้นคือ บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งมีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 1 ชั้น จากการตรวจสอบพบเอกสารหลักฐาน เช่น สมุดบัญชีธนาคารจำนวนมาก โทรศัพท์มือถือกว่า 10 เครื่อง รถยนต์ 4 คัน อาวุธปืน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวเจ้าของบ้านซึ่งเป็นชายชาวอินเดีย พร้อมกับหญิงคนไทย 3 คนมาสอบปากคำ

สำหรับปฎิบัติการครั้งนี้เป็นการร่วมมือระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐอเมริกา (FBI) และ United States Secret Service เพื่อปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

กรณีนี้สืบเนื่องจากทั้ง 2 หน่วยงานของสหรัฐฯ ได้รับรายงานว่ามีผู้เสียหายซึ่งเป็นพลเมืองของสหรัฐฯ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ หลอกว่าธุรกรรมการเงินและเงินในบัญชีของผู้เสียหายมีความผิดปกติ รวมทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยตลอดเวลา 2 ปีพบว่ามีผู้เสียหาย 365 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท จากแนวทางการสืบสวนพบว่ามีการโอนเงินข้ามประเทศและใช้ประเทศไทยเป็นฐานที่ตั้ง จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มข้นสกัดไม่ให้กลุ่มผู้ก่อเหตุต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย และใช้ไทยเป็นที่หลบซ่อนหรือเตรียมการกระทำความผิด

อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะขยายผลพร้อมประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อยึดทรัพย์ขบวนการนี้ โดยในวันพรุ่งนี้ (22 มี.ค.) ผบ.ตร.จะแถลงข่าวสรุปผลปฎิบัติการที่ บช.สอท. ในเวลา 10.00 น.