สุดทน 5 ปี ชาวบ้านขับไล่-ยอมยกมือไหว้ "แม่ชี" วัดดังชุมพร ให้ออกใน 24 ชม.เหตุประพฤติตนไม่เหมาะสม
27 มี.ค. 2566, 12:58
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 มี.ค.66 นางเยาวดี แดงสนิท ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยนายธีรวุฒิ ครุธนรสิงห์ อายุ 66 ปี คณะกรรมการวัดฯและชาวบ้านหมู่ 1 และหมู่ 2 กว่า 100 คน รวมตัวอยู่บริเวณหน้าศาลาการเปรียญวัดประเดิม พื้นที่ หมู่ 2 ต.ตากแดด อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ใช้เครื่องขยายเสียงเพื่อขับไล่แม่ชีโย่งให้พ้นจากวัดภายใน 24 ชั่วโมง เพราะมีความผิดหลายอย่างเช่น ใช้คำพูดหยาบคาย เรื่องแสดงตนเป็นเจ้ากี้เจ้าการของใช้ในวัด ทำตัวเป็นผู้วิเศษแอบอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และการจัดทอดผ้าป่าสามัคคีโดยจัดการเองทั้งหมดไม่บอกกล่าวชาวบ้านและคณะกรรมการวัด
ขณะที่ทางผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการวัดและชาวบ้านกำลังรวมตัวตะโกนขับไล่แม่โย่งอยู่นั้น แม่ชีโย่งได้เดินปรี่เข้ามาแย่งไมค์เพื่อขอพูด แต่ทางชาวบ้านไม่ยอมเพราะไม่ต้องการให้แก้ตัวพร้อมขับไล่ยันให้ออกจากวัดโดยเร็วเพราะสุดทนกับพฤติกรรมมานาน 5 ปี
ด้านนายธีรวุฒิ ครุธนรสิงห์ อายุ 66 ปี คณะกรรมการวัดประเดิม เปิดเผยว่า มี 4 ประเด็นหลักๆเหตุผลในการขับไล่แม่ชีโย่งคือ 1.เรื่องการประพฤติตนไม่เหมาะสมในการเป็นแม่ชี ใช้คำพูดหยาบคายกับอุบาสก อุบาสิกา ที่มาทำบุญในวันพระทำให้เกิดความไม่พอใจ ระยะหลังจึงเดินทางมาทำบุญที่วัดน้อยลง
2.เรื่องของใช้ภายในวัดโดยเฉพาะครัวฉัน แม่ชีโย่งไม่ยอมให้คนที่มาทำบุญได้ใช้และยังใช้อำนาจล๊อคกุญแจ แม่ชีโย่งยังไม่ยอมอยู่ที่โรงฉัน โดยไปหลับนอนในศาลาการเปรียญซึ่งไม่เหมาะสมอย่างมาก เนื่องจากในศาลาเป็นสถานที่ประชุมของคณะกรรมการวัด และใช้ใต้กุฏิพ่อปู่เวชฯเป็นที่หลับนอนด้วย
3.เรื่องทำตัวเป็นผู้วิเศษ แอบอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆว่า ตนเองพูดกับผีสางนางไม้ได้และจำทำอะไรตามอำเภอใจของตนเองทั้งสิ้น ซึ่งต่างจากประเพณีดั้งเดิมของวัดที่ได้สืบทอดกันมานานชั่วอายุคน เช่น การจัดงานตรุษไทยของชาวบ้านวัดประเดิมแม่ชีโย่งไม่ยอมให้ทำตามประเพณี แต่จำทำตามความคิดตนเองเป็นต้น
4.เรื่องการทอดผ้าป่าสามัคคีในวันที่ 2เม.ย.นี้แม่ชีโย่งได้ทำเองโดยพลการไม่ยอมบอกใครทั้งสิ้นคณะกรรมการวัดและชาวบ้านไม่รู้เรื่องเลย โดยแม่ชีได้จัดรถแห่จำนวน 3 คัน พร้อมกับทำซองโดยไม่มีฎีกา ไม่มีประธาน และคณะกรรมการ พร้อมทั้งออกเรี่ยไรทำพุ่มกับชาวบ้านบางรายผิดกฎหมาย”
ซึ่งก่อนหน้านี้นางเยาวดี แดงสนิท ผู้ใหญ่บ้าน ได้รับการร้องเรียน และได้เข้าพบพูดคุณกับเจ้าอาวาสและรักษาการแล้วแต่ไม่ได้รับการตอบสนอง วันดังกล่าวจึงรวมตัวกันกดดันเรียกร้องขับไล่ให้แม่ชีคนดังกล่าวออกจากวัดประเดิมภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าไม่ยอมจะแต่งตั้งไวยาวัจกรและชาวบ้าน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ตามขั้นตอนกฎหมาย แต่ในการกดดันขับไล่ครั้งนี้ไม่เป็นผล ชาวบ้านจึงแห่กันไปบนศาลาการเปรียญซึ่งเป็นที่พักของแม่ชีโย่งและเป็นสถานที่จัดทำพุ่มผ้าป่าฯ โดยมีคนสนิทแม่ชีนั่งอยู่ด้วย 3-4 คน จนมีปากเสียงกันปะทะคารมไปมาระหว่างกลุ่มชาวบ้านกับแม่ชีและคนสนิท ซึ่งแม่ชีบอกว่าจะไม่ชี้แจงอะไรทั้งสิ้นขอพบพระผู้ใหญ่เท่านั้นอ้างว่าเป็นเรื่องภายในวัด
ต่อมาเวลาประมาณ 12.30 น.พระครูบัณฑิตธรรมธาดา รองเจ้าคณะจังหวัดชุมพร พระครูศรีธรรมวิเทศ เจ้าคณะอำเภอเมืองชุมพร พระครูปลัดศิริโชค สิริธมฺโม รองเจ้าคณะอำเภอเมืองชุมพร และพระครูมหาสมศักดิ์ กิจฺจสาโร เจ้าคณะตำบลตากแดด เดินทางมาเพื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมหาแนวทางแก้ไข
โดยนายธีรวุฒิ ครุธนรสิงห์ อายุ 66 ปี คณะกรรมการวัดฯได้กล่าวถึงปัญหาที่แม่ชีประพฤติตนไม่เหมาะสมให้คณะพระผู้ใหญ่ได้รับฟัง พร้อมทั้งได้รับคำชี้แจงจากแม่ชีโย่งที่ถูกกล่าวหา ซึ่งคำชี้แจงของแม่ชียังไม่ชัดเจนโดยเฉพาะกล่าวอ้างชื่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรมาร่วมในพิธี ทำให้ชาวบ้านยังคงยืนยันให้แม่ชีพ้นจากวัด โดยคณะสงฆ์จึงลงมติให้แม่ชีย้ายออกตามคำเรียกร้อง ทำให้ชาวบ้านพึงพอใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พระครูปลัดศิริโชค สิริธมฺโม รองเจ้าคณะอำเภอเมืองชุมพร กล่าวหลังหลังจากมีมติให้แม่ชีพ้นวัดประเดิมว่า มีมติเป็นเอกฉันให้โยมแม่ชีโย่งออกจากวัดประเดิมภายในวันนี้ โดยแม่ชีโย่งเรียกร้องค่าเสียหายในการดำเนินการจัดทำพุ่มผ้าป่าฯกว่า 200 พุ่ม เป็นเงิน 50,000 บาท ทางคณะกรรมการและชาวบ้านก็ยินดีคืนให้ตามข้อเท็จจริง พอสรุปว่าพอเข้าใจแต่ละอย่างคนอยู่ภายในวัดกับนอกวัด มีอุปนิสัยต่างกัน ซึ่งอุปนิสัยส่วนตัวของแม่ชีพูดตรงเสียงดังไม่อ่อนหวาน ไม่ถูกใจพอใจญาติโยมที่เข้าวัดเป็นประจำ คณะสงฆ์แก้ปัญหาจบลงด้วยดี โยมชีไม่มีข้อโต้แย้งหรือขัดขืนใดๆ ส่วนวันที่ 2 เม.ย.นี้ทางวัดประเดิมยังจัดทอดผ้าป่าฯตามวัตถุประสงค์เดิม