กล้องวงจรปิด หลักฐานมัดตัวหญิงคนร้าย ขณะลากศพขึ้นรถไปทิ้งแม่น้ำ
30 มี.ค. 2566, 17:38
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายยงยุทธ เภานุช อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/1 หมู่ 18 ตำบลพะโต๊ะ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ว่าเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมาขณะที่ตนเองพร้อมภรรยาได้กลับจากทำธุระข้างนอก ได้กลับมาถึงบ้านเวลาประมาณ 18.00 น.ตนเองและครอบครัวได้พักผ่อนภายในบ้านจนกระทั่งเวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องเสียงดังมาทางห้องแถวให้เช่าจำนวน 5 ห้อง ซึ่งเป็นของตนเองและปลูกอยู่ติดกับบ้านพักอาศัยของตนเอง
นายยงยุทธกล่าวว่า ภรรยาของตนเองได้เดินออกไปดูและสอบถามตามห้องต่างๆว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งได้รับคำตอบจากนางบุญภา ซึ่งเป็นผู้เช่าห้องเลขที่ 80/8(ห้องที่ 5) ว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นตนเองได้คุยโทรศัพท์และเกิดทะเลาะกับพ่อของลูก ส่วนเสียงดังนั้นเด็กกำลังเล่นอยู่ในบ้าน ทางภรรยาของตนก็ได้สอบถามว่าต้องการความช่วยเหลืออะไรหรือไม่ นางบุญภาก็ตอบปฏิเสธในการช่วยเหลือพร้อมยืนยันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในบ้านโดยไม่ได้ โดยไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นจริงตามนางบุญภากล่าวอ้าง จนกระทั่งมาทราบข่าวว่านางบุญภาตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นตอนเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจพิสูจน์หลักฐานที่ห้องเช่าของนางบุญภา ตนเองก็ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่หลังมาขอภาพกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บริเวณมุมห้องเช่าห้องที่ 80/4 (ห้องที่1) ซึ่งปรากฎภาพขณะนางบุญภาได้ขับรถกระบะเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านเมื่อเวลา 19.00 น.ก่อนจะลงจากรถพร้อมหิ้วขวดเบียร์และมีนางสาวชฎาทิพย์ผู้ตายเปิดประตูลงมาด้านซ้ายมือโดยมีเด็กชายเอ อายุ 11 ปีซึ่งเป็นลูกชายของนางบุญภาลงตามมาด้วย ก่อนจะเปิดประตูเข้าบ้านไปทั้งหมด 3 คน
นายยงยุทธกล่าวต่ออีกว่าหลังจากนั้นเวลาประมาณ 20.40 น.ปรากฎภาพภรรยาของตนเองและผู้เช่าบ้านได้ออกมาบริเวณหน้าบ้านและได้สอบถาม ซึ่งเป็นเวลาที่ทุกคนได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากห้องนางบุญภาแล้วทั้งหมดก็แยกย้ายกลับเข้าห้องของตนเอง ต่อมาเวลา 21.00 น.นางบุญภาและลูกชายได้เปิดประตูซึ่งเป็นลักษณะประตูบานม้วนได้เปิดแง้มขึ้นไปเล็กน้อยก่อนทั้งคู่จะก้มมุดออกมาด้านหน้าลักษณะเดินดูตามห้องต่างๆว่ามีใครอยู่บ้างโดยเข้าออก 2-3 ครั้ง เมื่อมั่นใจว่าทุกห้องปิดประตูบ้านเข้าบ้านกันหมดนางบุญภาจึงได้ปิดไฟหน้าบ้านเพียงไม่ถึง 2 นาทีก็ปรากฎภาพนางบุญภาก้มมุดออกมาจากในบ้านอีกครั้งลักษณะคล้ายกับกำลังลากสิ่งของออกมา ไปทางฝั่งด้ายซ้ายของตัวรถก่อนที่จะเดินย้อนกลับมาขึ้นรถด้านคนขับ แล้วขับรถออกจากบ้านโดยมีลูกชายของนางบุญภานั่งไปด้วย
นายยงยุทธยังกล่าวอีกว่าสำหรับนางบุญภาเพิ่งเข้ามาเช่าบ้านเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ส่วนนางชฎาทิพย์ตนเองก็เคยเห็นมาที่บ้านเช่าก่อนหน้านี้ 1 ครั้ง และลูกชายทราบว่าเพิ่งมาอยู่ได้ไม่กี่วันและมีเหตุเกิดขึ้นดังกล่าว
พ.ต.อ.มนศักดิ์ ศรีสุวรรณ ผกก.พะโต๊ะเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ได้ควบคุมตัวนางบุญภา มาสอบสวนในเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุตนเองไปรับผู้ตาย และระหว่างทางได้แวะซื้อเบียร์จำนวน2ขวดมานั่งดื่มกินที่ห้องเช่าระหว่างนั้นพบว่าผู้ตายพูดคุยกับแฟนที่คบกันอย่างลับๆ(กิ๊ก)ด้วยความโมโหจึงได้ทะเลาะกันประกอบบันดานโทสะจึงใช้ไม้นิ้วครึ่งสามฟาดเข้าบริเวณศีรษะ2ครั้ง และใช้ผ้าห่มห่อมัดและตีซ้ำเพื่อไม่ให้มีเสียงดังป้องกันคนข้างบ้านได้ยิน ก่อนนำไปทิ้งที่แม่น้ำ
ผกก.ยังกล่าวอีกว่าคำสารภาพยังสอดคล้องกับกล้องวงจรปิดที่ได้ และยิ่งกว่านั้นได้สอบถามลูกชายผู้ก่อเหตุซึ่งเล่าเหตุการณ์ทุกอย่าง พร้อมทั้งยังชี้จุดเกิดเหตุ จุดทิ้งศพและอื่นๆจนนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว นอกจากนี้ทองทั้งหมดจำนวน 5 บาท เป็นสร้อยคอ 2บาท สร้อยข้อมือ 3 บาท ผู้ก่อเหตุได้นำไปจำนำที่ร้านทองแห่งหนึ่งได้เงินจำนวนกว่า 1 แสนบาทและทางเจ้าหน้าที่ได้นำเงินไปไถ่ถอนกลับ มาได้ทั้งหมด