ตำรวจรวบหนุ่มวัย 38 พร้อมยาบ้ากว่า 3 แสนเม็ด รับจ้างวางตามจุด 7 จว.ภาคอีสาน
3 เม.ย. 2566, 17:29
วันนี้ (3 เมษายน 66) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พ.ต.อ.นุติ ศักดิ์สุภาพ ผู้กำกับการสืบสวน ภ.จว.มหาสารคาม และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.มหาสารคาม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสามารถ ครุฑทิน หรือนายช้าง อายุ 38 ปี ราษฏรตำบลบึงกอก อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 322,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ2 เครื่อง รถยนต์ 1 คัน
พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานีว่า นายช้างมีพฤติกรรมนำยาบ้าไปจำหน่ายในเขตจังหวัดอุบลราชธานี โดยนายช้างได้พักอาศัยในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งภายหลังจากทราบเรื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้ออกสืบสวนหาข่าวจนทราบว่านายช้างได้มาพักอาศัยที่หอพักแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเฝ้าสังเกตพฤติกรรม กระทั่งนายช้างขับขี่รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ สีเทา หมายเลขทะเบียน 6กอ 7368 กรุงเทพฯ เข้ามาบริเวณหอพัก ในสภาพฝากระโปรงหน้าบุบ กันชนหลุดลุ่ย ทราบภายหลังว่านายช้างขับรถไปชนท้ายคู่กรณีในพื้นที่อำเภอกุดรัง จ.มหาสารคาม ซึ่งขณะนั้นกำลังจะนำยาบ้าไปส่งตามจุดนัดหมาย เขตรอยต่อระหว่างอำเภอกุดรัง จ.มหาสารคาม กับ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น แต่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน จึงได้ขับรถกลับเข้ามาที่หอพัก เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นจึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น
จากการตรวจสอบในรถพบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงผ้าสีขาว วางไว้ที่พื้นที่นั่งฝั่งผู้โดยสารด้านซ้ายคนขับ จำนวน 40,000 เม็ด โดยนายช้างรับว่าเป็นเจ้าของยาบ้าทั้งหมด โดยได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมว่า ยังมียาบ้าอีกส่วนหนึ่งอยู่ในห้องพัก จึงได้นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบในห้องพัก พบยาบ้าอีก 160,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้ราวแขวนเสื้อผ้า และยังมียาบ้าอีก 122,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้า รวมยาบ้าทั้งหมด 322,000 เม็ด
โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่ารับยาบ้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยไปรับมาจาก อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม โดยจะทำหน้าที่เป็นนักบิน นำยาบ้าไปวางไว้ตามจุดต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เลย สกลนคร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น อุดรธานี และร้อยเอ็ด จะใช้หอพักเป็นแหล่งพักยา เพราะไม่ได้มีการส่งยาในพื้นที่มหาสารคาม โดยจะได้ค่าจ้างมัดละ 800 บาท ซึ่งในการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ทั้งหมด 161 มัด หากขายยาบ้าได้ทั้งหมด จะได้เงินราว 128,800 บาท สำหรับประวัติของผู้ต้องหาเคยมีคดีเกียวกับยาเสพติดเพิ่งจะพ้นโทษออกมาในปี 63 และยังมีหมายจับของศาลจังหวัดสตูล ในคดีเกียวกับยาเสพติดอีกด้วย
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา มีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป